Abstract:
คนพิการทางสติปัญญาเป็นบุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาจากการที่สมองหยุดพัฒนาหรือพัฒนาไม่สมบูรณ์ ทำให้มีข้อจำกัดด้านทักษะทางความคิด ทักษะทางสังคม และทักษะทางการปฏิบัติ ด้วยภาวะความบกพร่องดังกล่าวทำให้คนพิการทางสติปัญญามีความอ่อนแอทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เมื่อคนพิการทางสติปัญญาตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา ต้องเผชิญกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญาที่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน และสถานการณ์ที่มุ่งแสวงหาความจริงจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ด้วยข้อจำกัดดังกล่าว คนพิการทางสติปัญญาจึงไม่อาจเข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์ และอาจมีความอ่อนไหวทางอารมณ์ ทำให้ไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างเท่าเทียมกับบุคคลปกติทั่วไป หรือไม่อาจแสดงออกถึงความคิดและการตัดสินใจของตนเองได้อย่างเต็มที่ จากการศึกษาพบว่าประเทศไทยยังไม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองผู้ต้องหาหรือจำเลยที่เป็นคนพิการทางสติปัญญาในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา โดยไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายในการดำเนินคดีอาญากรณีผู้ต้องหาหรือจำเลยที่เป็นคนพิการทางสติปัญญาเป็นการเฉพาะ ทำให้การดำเนินคดีอาญาทั้งในชั้นก่อนการพิจารณาคดี ชั้นพิจารณาคดี และชั้นหลังการพิจารณาคดีขาดความชัดเจนแน่นอน อีกทั้งผู้บังคับใช้กฎหมายยังคงขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับคนพิการทางสติปัญญา จึงไม่อาจให้การสนับสนุนแก่ผู้ต้องหาหรือจำเลยในการขั้นตอนต่าง ๆ ได้ตามความต้องการเฉพาะ ในต่างประเทศ ซึ่งได้แก่ประเทศสหรัฐอเมริกา และ สหราชอาณาจักร มีกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองผู้ต้องหาหรือจำเลยที่เป็นคนพิการทางสติปัญญาในการดำเนินคดีอาญา มีการฝึกอบรมและจัดทำคู่มือแนวทางในการปฏิบัติตนสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อคนพิการทางสติปัญญา ทั้งกำหนดให้มีการช่วยเหลือ สนับสนุนคนพิการทางสติปัญญาให้สามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรมอีกด้วย วิทยานิพนธ์เล่มนี้เสนอให้ประเทศไทยควรมีกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองผู้ต้องหาหรือจำเลยที่เป็นคนพิการทางสติปัญญาเป็นการเฉพาะอย่างชัดเจน โดยกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการทางกฎหมาย เพื่อให้คนพิการทางสติปัญญาได้รับการคุ้มครองและช่วยเหลือสนับสนุนเมื่อต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ทั้งในชั้นก่อนการพิจารณาคดี ชั้นพิจารณาคดี และชั้นหลังการพิจารณาคดี และให้มีการจัดทำคู่มือรวมถึงการฝึกอบรมผู้บังคับใช้กฎหมายในขั้นตอนต่าง ๆ ให้สามารถปฏิบัติต่อผู้ต้องหาหรือจำเลยที่เป็นคนพิการทางสติปัญญาได้อย่างเหมาะสม