การพัฒนาเครื่องวัดสมบัติการระเบิดของวัสดุอนุภาค : รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

วิวัฒน์ ตัณฑะพานิชกุล; ศิริกัลยา สุวจิตตานนท์; ธวัชชัย ชรินพาณิชกุล; ฉันทมณี วังสะจันทานนท์

dc.contributor.author	วิวัฒน์ ตัณฑะพานิชกุล
dc.contributor.author	ศิริกัลยา สุวจิตตานนท์
dc.contributor.author	ธวัชชัย ชรินพาณิชกุล
dc.contributor.author	ฉันทมณี วังสะจันทานนท์
dc.contributor.other	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิศวกรรมศาสตร์
dc.date.accessioned	2021-08-26T06:01:32Z
dc.date.available	2021-08-26T06:01:32Z
dc.date.issued	2546
dc.identifier.uri	http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/75160
dc.description.abstract	วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือ การวัดค่าความดันสูงสุดจากการระเบิด (PMAX) และอัตราสูงสุดของการเพิ่มความดัน (dP/dt) MAX ของวัสดุอนุภาคมาตรฐาน และศึกษาอิทธิพลของขนาดอนุภาคเฉลี่ยที่มีต่อค่า PMAX และ (dP/dt) MAX การทดสอบเบื้องต้นพบว่าเวลาหน่วงก่อนการจุดชนวนระเบิดที่เหมาะสมเท่ากับ 20 มิลลิวินาที จากการทดสอบซึ่งอ้างอิงโดยใช้อนุภาคมาตรฐาน 2 ชนิด (Iycopodium และ nicotinic acid) พบว่าค่า PMAX และ (dP/dt) MAX ที่ได้จากเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นมีค่าใกล้เคียงกับที่มีตีพิมพ์ในต่างประเทศ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าเครื่องต้นแบบสำหรับทดสอบสมบัติการระเบิดวัสดุอนุภาคที่สร้างขึ้นนี้ให้ค่าน่าเชื่อถือเพียงพอในการวัดต่อไป ภายหลังการปรับแต่งและสอบเทียบด้วยอนุภาคมาตรฐาน นอกจากนี้การทดลองหลังจากปรับค่าที่เหมาะสมชี้ให้เห็นว่าค่า PMAX และ (dP/dt) MAX จะเพิ่มขึ้นตามความเข้มข้นของหมอกฝุ่นที่เพิ่มขึ้นจนถึงความเข้มข้นค่าหนึ่งจากนั้นมีค่าลดลง สำหรับอิทธิพลของขนาดอนุภาคเฉลี่ยพบว่าค่า PMAX และ (dP/dt) MAX มีค่ามากขึ้นเมื่ออนุภาคมีขนาดอนุภาคเฉลี่ยลดลง ประเด็นความปลอดภัยในภาคอุตสาหกรรมเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจ นับตั้งแต่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัสดุอนุภาคนั้นเป็นที่ยอมรับว่าเป็นจุดกำเนิดของหายนะภัย เนื่องจากการระเบิด อย่างไรก็ตามในปัจจุบันยังคงมีข้อมูลของการศึกษาการระเบิดของวัสดุอนุภาคที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะเพียงจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนารวมทั้งประเทศไทย เนื่องจากการขาดแคลนอุปกรณ์ทดสอบการระเบิดมาตรฐานซึ่งมีราคาแพง	en_US
dc.description.abstractalternative	The objectives of this research are to develop a prototype of a dust explosibility tester, to measure the maximum pressure (PMAX ) and the maximum rate of pressure rise (dP/dt) MAX of standard particle and to look into effect of the average particle size of dust sample on the PMAX and (dP/dt) MAX values. The investigation showed the optimum delay times in ignition should be 20 millisecond. The investigations based on two types of standard particle (lycopodium and nicotinic acid) could reveal PMAX and (dP/dt) MAX values obtained in this research is close to the published data. Therefore it could be concluded that the prototype dust explosibility tester developed by the research team is reliable enough to use for other measurement after undergoing adjustment and calibration. Other results of experiments conducted after verification revealed that the PMAX and the (dP/dt) MAX values increased with an increase in the concentration of particulate material until reach a maximum then decreased with further increasing concentration. For the effect of nominal particle size, it was found that the PMAX and the (dP/dt) MAX values increased with a decrease in the nominal average particle size. Safety aspects in industrial sections has become an interesting issue since the era of industrial revolution. Especially, particulate matter has been recognized as a potential source of explosive disaster. However, these have been very limited investigation results which are thoroughly revealed to the public, in particular, in many developing counties including Thailand became of shortage of standard explosibility testing equipment which to very expensive.	en_US
dc.description.budget	ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากโครงการวิจัยร่วมภาครัฐ-เอกชน ประจำปีงบประมาณ 2546	en_US
dc.language.iso	th	en_US
dc.publisher	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย	en_US
dc.rights	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย	en_US
dc.subject	การระเบิด	en_US
dc.subject	เครื่องวัด	en_US
dc.subject	อนุภาค	en_US
dc.title	การพัฒนาเครื่องวัดสมบัติการระเบิดของวัสดุอนุภาค : รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์	en_US
dc.title.alternative	Development of explosibility measuring apparatus for particulate	en_US
dc.type	Technical Report	en_US