Abstract:
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการปรับเปลี่ยนชีวภาพเนื้อฟันด้วยสารสกัดจากเมล็ดองุ่นในการลดปริมาณแอคทีฟเจลาติเนส เมื่อใช้ร่วมกับสารยึดติดยูนิเวอร์แซล เอทช์แอนด์รินส์โหมด โดยใช้ผงเนื้อฟันที่เตรียมจากฟันกรามใหญ่ซี่ที่สามของมนุษย์ในการวัดปริมาณแอคทีฟเอ็มเอ็มพี ชนิดที่ 2 และใช้ชิ้นตัวอย่างการยึดติดเรซินและเนื้อฟันเพื่อศึกษาตำแหน่งที่มีแอคทีฟเจลาติเนสในชั้นไฮบริด แบ่งกลุ่มการทดลองเป็น 6 กลุ่ม คือ เนื้อฟันที่ไม่ปรับสภาพผิวใด ๆ กลุ่มเนื้อฟันที่กัดด้วยกรดฟอสฟอริก กลุ่มเนื้อฟันที่ใช้สารยึดติดยูนิเวอร์แซล เอทช์แอนด์รินส์โหมด ซิงเกิลบอนด์ ยูนิเวอร์แซล หรือ จี พรีมิโอ บอนด์ และกลุ่มที่มีการปรับสภาพเนื้อฟันด้วยสารสกัดจากเมล็ดองุ่นนาน 1 นาที หลังกัดด้วยกรดฟอสฟอริก ร่วมกับการใช้สารยึดติดดังกล่าว วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวและการทดสอบบองเฟอโรนี ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 พบว่า กระบวนการยึดติดเนื้อฟันด้วยสารยึดติดยูนิเวอร์แซล เอทช์แอนด์รินส์โหมด มีผลลดปริมาณแอคทีฟเอ็มเอ็มพี ชนิดที่ 2 และการปรับเปลี่ยนชีวภาพเนื้อฟันด้วยสารสกัดจากเมล็ดองุ่นยิ่งทำให้ลดปริมาณแอคทีฟเอ็มเอ็มพี ชนิดที่ 2 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อใช้สารยึดติด จี พรีมิโอ บอนด์ สอดคล้องกับผลจากการศึกษาตำแหน่งที่พบแอคทีฟเจลาติเนสในชั้นไฮบริดลดลงเมื่อใช้สารสกัดจากเมล็ดองุ่นก่อนการทาสารยึดติด จี พรีมิโอ บอนด์ อาจสรุปได้ว่าสารสกัดจากเมล็ดองุ่นช่วยส่งผลดีในการลดปริมาณแอคทีฟเจลาติเนส โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับสารยึดติดที่มีความไม่ชอบน้ำสูง แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ย่อยโปรตีน ผลต่อค่ากำลังการยึดติดและประสิทธิภาพของสารสกัดจากเมล็ดองุ่นในการยืดอายุของการยึดติดเนื้อฟัน