Abstract:
โครงการอาคารชุดพักอาศัยที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล พื้นที่งานภูมิทัศน์ ประกอบด้วย พรรณไม้ และ องค์ประกอบอย่างอื่น เช่น ภูมิทัศน์ดาดแข็ง (Hardscape) แต่เมื่อเริ่มเปิดใช้งานอาคาร กลับพบว่างานภูมิทัศน์มีปัญหาเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งงานภูมิทัศน์นั้น ถือเป็นกายภาพส่วนหนึ่งของอาคาร ที่ต้องได้รับการดูแลรักษา (Building Service Operation) การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงประจักษ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบงานภูมิทัศน์ที่พบในโครงการคอนโดมิเนียมแบบอาคารสูง โดยได้ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่าง ที่มีเกณฑ์การคัดเลือกจากโครงการอาคารชุดพักอาศัยที่มีลักษณะเป็นอาคารสูง ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 9 โครงการ โดยได้ทำการศึกษาข้อมูลในประเด็น รูปแบบงานภูมิทัศน์ที่พบในโครงการ, วิธีการจัดการงานดูแลรักษา, และ ค่าใช้จ่ายของงานดูแลรักษางานภูมิทัศน์ จากการศึกษาพบว่า ในทุกโครงการ จะพบสวนในระดับพื้นชั้น 1 และ สวนบนอาคาร สำหรับสวนแนวตั้ง พบใน 6 โครงการ เฉพาะในโครงการที่มีช่วงราคาขายสูง มากกว่า 130,000 บาท/ตร.ม.ขึ้นไป ในส่วนของข้อมูลบริษัทผู้รับจ้าง พบว่าทุกกรณีศึกษาเป็นการจัดจ้างผู้รับจ้างบริษัทดูแลรักษางานภูมิทัศน์ในรูปแบบของบริษัทภายนอก (Outsourcing) ทั้งหมด ขอบเขตของงานดูแลรักษา พบว่า สามารถแบ่งกลุ่มงานได้เป็น 4 กลุ่ม คือ งานดูแลรักษาประจำวัน ประจำสัปดาห์ ประจำเดือน และ งานซ่อมบำรุงงานสวนเป็นครั้งคราว ซึ่งสามารถจัดกลุ่มประเภทงานดูแลรักษาได้เป็น งานดูแลรักษาระดับทั่วไป และ งานดูแลรักษาแบบเฉพาะทาง ในส่วนของราคาค่าบริการงานดูแลรักษางานภูมิทัศน์จะพบว่าเมื่อนำไปวิเคราะห์หาสัดส่วนต่อค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่เกิดขึ้นในแต่ละโครงการ พบเพียงไม่เกินร้อยละ 1 ของอัตราค่าใช้จ่ายต่อพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก จึงเป็นข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่ามูลค่าของการดูแลรักษางานภูมิทัศน์มีสัดส่วนที่น้อย แต่เป็นส่วนที่จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ บรรยากาศ รวมถึงมูลค่าของโครงการในอนาคต ข้อค้นพบจากการศึกษา พบว่า การจัดการงานดูแลรักษางานภูมิทัศน์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มีวิธีการจัดการที่ไม่แตกต่างกัน คือเป็นวิธีการจัดหาผู้ให้บริการงานดูแลรักษาสวนแบบ Outsourcing โดยที่การดำเนินงานดูแลรักษา ยังเป็นไปตามเงื่อนไขที่ไม่จำเพาะเจาะจงกับรูปแบบงานภูมิทัศน์ที่แตกต่างกัน จึงควรมีการจัดการวิธีการดูแลรักษางานภูมิทัศน์ให้เหมาะสมกับรูปแบบงานภูมิทัศน์ที่มีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ของโครงการเพื่อให้งานดูแลรักษางานภูมิทัศน์ มีคุณภาพที่ดีขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการดูแลอาคารให้มีสภาพเหมือนตอนเปิดใช้งานให้ได้มากที่สุด