Abstract:
พื้นที่สีเขียวเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดความน่าอยู่ของเมืองและมีการกำหนดในกฎหมายให้พัฒนาพื้นที่สีเขียวในโครงการที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตาม การพัฒนาพื้นที่สีเขียวย่อมเป็นต้นทุนของผู้ประกอบการ งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาลักษณะการจัดให้มีพื้นที่สีเขียวและต้นทุนการจัดพื้นที่สีเขียวในโครงการคอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพมหานคร ผู้วิจัยรรวบรวมข้อมูลจากรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ระหว่าง พ.ศ. 2557 - 2562 จำนวน 356 โครงการ และเลือกศึกษาเชิงลึกในโครงการราคาประหยัด (Economy Class) และโครงการราคาปานกลาง (Main Class) รวม 175 โครงการ ใช้การสัมภาษณ์บริษัทผู้ประกอบการเรื่องต้นทุนพัฒนาพื้นที่สีเขียว วิเคราะห์ผลเปรียบเทียบลักษณะพื้นที่สีเขียว หาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร รวมถึงประมาณต้นทุนการจัดพื้นที่สีเขียว
ผลการศึกษาพบว่า 1) คอนโดมิเนียมราคาปานกลาง มีสัดส่วนการจัดพื้นที่สีเขียวมากกว่าในคอนโดมิเนียมราคาประหยัด ถึงร้อยละ 18 ต่อพื้นที่โครงการ ขณะที่โครงการที่มีขนาดใหญ่กว่ามีการจัดให้มีสัดส่วนพื้นที่สีเขียวมากกว่าในโครงการขนาดเล็กกว่าถึงร้อยละ 30 ต่อพื้นที่โครงการ 2) เมื่อพิจารณาเกณฑ์ในการจัดให้มีพื้นที่สีเขียว โครงการราคาประหยัด จัดให้มีคุณลักษณะด้านขนาดพื้นที่สีเขียว และตำแหน่งพื้นที่สีเขียวชั้นล่าง ในสัดส่วนที่มากกว่าโครงการราคาปานกลาง ขณะที่โครงการราคาปานกลาง จัดให้มีพื้นที่ว่าง และพื้นที่ซึมน้ำ มีสัดส่วนที่มากกว่าโครงการราคาประหยัด เมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด 3) แนวคิดการจัดพื้นที่สีเขียวจากลักษณะกลุ่มลูกค้าและแนวคิดการสร้างจุดขาย มีส่วนสะท้อนถึงการกำหนดต้นทุนตามระดับราคาทั้งนี้ต้นทุนการจัดส่วนใหญ่อยู่ที่พื้นที่สีเขียวชั้นล่าง ซึ่งมีสัดส่วนต้นทุนชั้นล่างต่อบนอาคารโดยเฉลี่ยร้อยละ 74 : 26 อย่างไรก็ตาม จากการประมาณการพบว่า โครงการส่วนใหญ่มีสัดส่วนต้นทุนพื้นที่สีเขียวไม่ถึงร้อยละ 0.48 ของมูลค่าโครงการ
จากการศึกษาชี้ให้เห็นว่าลักษณะพื้นที่สีเขียวในคอนโดมิเนียมมีการจัดแตกต่างกันตามระดับราคาและขนาดโครงการ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่โครงการต่างๆมีการจัดพื้นที่สีเขียวมากกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ผลการศึกษาจะเป็นข้อมูลสำคัญต่อการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการพัฒนาพื้นที่สีเขียวให้กับโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงโดยเฉพาะโครงการขนาดเล็กและราคาต่ำซึ่งมีอยู่จำนวนมาก เพื่อนำไปสู่การเป็นจุดขายและการเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนที่อยู่ในคอนโดมิเนียมต่อไป