Abstract:
งานศึกษาชิ้นนี้ต้องการอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเขตการปกครองและวัฒนธรรมกับพัฒนาการทางเศรษฐกิจของพื้นที่กลุ่มชาติพันธุ์ทางภาษาโดยใช้ความสว่างของแสงไฟยามค่ำคืนเป็นตัวแทนของพัฒนาการทางเศรษฐกิจเพื่อวางแนวพื้นที่ได้โดยอิสระ การศึกษาครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ ความสว่างของแสงไฟเหนือพื้นที่กลุ่มชาติพันธุ์เดียวกันที่ตั้งถิ่นฐานข้ามขอบเขตจังหวัด เพื่ออธิบายผลของเขตการปกครองที่ส่งผลต่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจโดยควบคุมปัจจัยด้านวัฒนธรรมให้คงที่ และความสว่างของแสงไฟเหนือพื้นที่กลุ่มชาติพันธุ์ที่ต่างกัน แต่มีการตั้งถิ่นฐานอยู่ใกล้เคียงกันและอยู่ภายในจังหวัดเดียวกัน เพื่ออธิบายผลของวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจโดยควบคุมปัจจัยด้านเขตการปกครองให้คงที่ นอกจากนี้ยังศึกษาถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อความสว่างของแสงไฟยามค่ำคืนทั้ง 2 กรณีผ่าน 5 ตัวแปร ดังนี้ คุณภาพของสถาบันท้องถิ่น ความหนาแน่นของประชากร ความสูงของพื้นที่ ถนนในพื้นที่ และระยะห่างจากเมือง
ผลการศึกษาพบว่า ทั้งเขตการปกครองและวัฒนธรรมส่งผลต่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน โดยคุณภาพของสถาบันท้องถิ่นที่มีความโปร่งใสและคุณภาพในการดำเนินงานที่ต่างกัน ทำให้กลุ่มชาติพันธุ์เดียวกันที่ข้ามจังหวัดมีความสว่างของแสงไฟที่แตกต่างกัน และความสูงของพื้นที่ทำให้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตต่างกัน ส่งผลให้แสงไฟระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่ภายในจังหวัดจึงต่างกัน นำไปสู่ข้อสรุปที่ว่าเขตการปกครองจะมีความสำคัญมากกว่าวัฒนธรรมเมื่อกลุ่มชาติพันธุ์อยู่ข้ามจังหวัด ในทางกลับกันวัฒนธรรมก็จะมีความสำคัญมากกว่าเขตการปกครองเมื่อกลุ่มชาติพันธุ์อยู่ภายในจังหวัดเดียวกัน ดังนั้น เขตการปกครองระดับจังหวัดและความร่วมมือระหว่างจังหวัดมีความสำคัญต่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจของไทย รวมทั้งพัฒนาการทางเศรษฐกิจควรคำนึงถึงความสอดคล้องของวัฒนธรรมท้องถิ่นที่หลากหลายด้วย