Abstract:
ที่มาและความสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของไมโครไบโอต้าในลำไส้ส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์และการเกิดภาวะแทรกซ้อนในการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดโดยใช้เซลล์ของผู้อื่น ปัจจุบันหลักฐานดังกล่าวมีจำกัดในแถบเอเชียและยังไม่เคยมีการศึกษาในประเทศมาก่อน ผู้วิจัยจึงทำการศึกษารูปแบบการเปลี่ยนแปลงของไมโครไบโอต้าในลำไส้และความสัมพันธ์ต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดโดยใช้เซลล์ของผู้อื่นในประชากรไทย
วิธีการวิจัย ทำการวิจัยแบบนำร่องในผู้ป่วยอายุ ≥ 15 ปีที่เข้ารับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดโดยใช้เซลล์ของผู้อื่นในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เก็บตัวอย่างอุจจาระที่ 3 ระยะคือ ภายใน 1 สัปดาห์ก่อนได้รับยาเคมีบำบัดเพื่อรับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด ภายใน 3 วันหลังร่างกายยอมรับเซลล์ต้นกำเนิดจากผู้บริจาค (engraftment) และหลังจาก engraftment แล้ว 1 เดือน นำตัวอย่างอุจจาระไปทำการวิเคราะห์ทางจุลชีวิทยาโดย 16S rRNA gene sequencing ประเมินความหลากหลายโดยใช้ Shannon diversity index เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของไมโครไบโอต้าในลำไส้หลังการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดและดูความสัมพันธ์ระหว่างไมโครไบโอต้าในลำไส้กับการเกิดภาวะเซลล์ต้นกำเนิดใหม่ต่อต้านต้านร่างกายชนิดเฉียบพลัน (acute graft versus host disease, acute GVHD)
ผลการศึกษา ผู้ป่วยที่เข้ารับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดโดยใช้เซลล์ของผู้อื่นทั้งหมด 11 ราย มีผู้ป่วย 2 ราย (ร้อยละ 18.2) เกิด acute GVHD ไม่มีผู้ป่วยเสียชีวิตในระหว่าง การศึกษานี้ พบการติดเชื้อในกระแสเลือดและการติดเชื้อ C. difficile อย่างละ 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 27.3 จากผลการศึกษา Shannon diversity index ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในกลุ่ม post-conditioning regimen เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ แสดงว่าช่วงที่มี engraftment จะมีความมากชนิดและความหลากหลายของแบคทีเรียลดลง
สรุปผล พบการเปลี่ยนแปลงความหลากหลายของไมโครไบโอต้าในลำไส้หลังการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดโดยใช้เซลล์ของผู้อื่น ความหลากหลายที่ลดลงมีแนวโน้มสัมพันธ์กับการเกิดภาวะแทรกซ้อนคือการติดเชื้อและ acute GVHD สิ่งเหล่านี้บ่งชี้ว่าไมโครไบโอต้าในลำไส้นั้นอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จหรือล้มเหลวในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่เข้ารับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดโดยใช้เซลล์ของผู้อื่นได้