DSpace Repository

บทบาทของสหรัฐฯในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ระหว่างปี ค.ศ. 2009 - 2020

Show simple item record

dc.contributor.advisor พงศ์พิสุทธิ์ บุษบารัตน์
dc.contributor.author จิราภรณ์ จรูญชาติ
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะรัฐศาสตร์
dc.date.accessioned 2021-09-21T06:35:49Z
dc.date.available 2021-09-21T06:35:49Z
dc.date.issued 2563
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/76427
dc.description สารนิพนธ์ (ร.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2563
dc.description.abstract การรุกเข้าพื้นที่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงของจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม ที่เชื่อมโยงทางบกและทางทะเล ตามยุทธศาสตร์ข้อริเริ่มแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative : BRI) รวมถึง การสร้างเขื่อนบนลำน้ำโขง ระหว่างปี ค.ศ. 2009-2020 ส่งผลให้สหรัฐฯ ตระหนักถึงอิทธิพลของจีนจากยุทธศาสตร์ BRI และศักยภาพทางเศรษฐกิจของจีนที่เพิ่มมากขึ้นจนสามารถขยายอำนาจครอบคลุมหลายพื้นที่ที่เป็นเขตอิทธิพลของสหรัฐฯในภูมิภาคนี้ ดังนั้น สารนิพนธ์ฉบับนี้ จึงจัดทำขึ้นเพื่ออธิบายท่าทีของสหรัฐฯที่ต้องการคงบทบาทความเป็นประเทศมหาอำนาจหลักในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และตอบโต้จีนผ่านแนวทางการถ่วงดุลอำนาจ โดยการสร้างกลไกความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และการเลือกใช้แนวทาง Buck-Passing ในการผลักภาระให้กับประเทศพันธมิตร โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น อินเดีย และเกาหลีใต้ รวมถึง กรอบความร่วมมืออื่นๆ ในการรับมือกับอิทธิพลของจีน มากกว่าการผลักดันกลไกความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงของตนเพียงอย่างเดียว
dc.description.abstractalternative China's invasion into the Mekong Subregion, a part of Silk Road which connects land and sea According to the Belt and Road Initiative (BRI) strategy, including the construction of dams on the Mekong between 2009-2020 has wakened up the United States to become aware of China's influence from the BRI strategy itself and its growing economic potential to cover many areas of US influence in the region. This thesis therefore, was prepared to explain the stance of the United States to maintain its role as a major power in the Mekong Subregion and to retaliate against Chinese influence through a balance of power theory by choosing the buck-passing approach. The United States has opted to take a way to push the burden on the stakeholders such as Japan, India and South Korea while at the same time, building cooperation with regional partners, including other actors of cooperation frameworks in dealing with Chinese influence rather than just pushing for cooperation mechanisms in the Mekong Sub-region alone.
dc.language.iso th
dc.publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
dc.relation.uri http://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2020.276
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
dc.subject.classification Social Sciences
dc.title บทบาทของสหรัฐฯในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ระหว่างปี ค.ศ. 2009 - 2020
dc.title.alternative The role of the united states in the Mekong subregion (2009 -2020)
dc.type Independent Study
dc.degree.name รัฐศาสตรมหาบัณฑิต
dc.degree.level ปริญญาโท
dc.degree.discipline ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
dc.degree.grantor จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
dc.identifier.DOI 10.58837/CHULA.IS.2020.276


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

  • Pol - Independent Studies [518]
    สารนิพนธ์ คณะรัฐศาสตร์ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 เป็นต้นไป

Show simple item record