Abstract:
สารนิพนธ์ฉบับนี้มีมุ่งศึกษาท่าทีของรัฐบาลอาเบะ ชินโซ ต่อเกาหลีเหนือ ในเรื่องของการจัดการปัญหาการลักพาตัวชาวญี่ปุ่นต่อเกาหลีเหนือในช่วง ค.ศ. 2018 และ ค.ศ. 2019 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสาเหตุที่รัฐบาลอาเบะ แสดงท่าที่ระแวดระวังต่อเกาหลีเหนือในประเด็นการจัดการการลักพาตัว โดยใน ค.ศ. 2018 เกาหลีเหนือมีท่าทีเป็นมิตรต่อสหรัฐฯ และยินยอมในการยุติการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นมีท่าทีระแวดระวังเกาหลีเหนือ เพราะเชื่อว่าเกาหลีเหนือไม่ได้จริงใจต่อการเป็นมิตรกับสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นจึงใช้โอกาสนี้ ให้ทางสหรัฐฯ ช่วยเจรจาให้เกาหลีเหนือเร่งคลี่คลายประเด็นการลักพาตัว แม้สหรัฐฯ ช่วยญี่ปุ่นแล้ว แต่เกาหลีเหนือกลับไม่ยอมเจรจากับญี่ปุ่น ยิ่งทำให้รัฐบาลอาเบะ กังวลต่อพฤติกรรมเกาหลีเหนือ
จากการศึกษาพบว่า ปัจจัยภายในประเทศมีผลต่อการแสดงออกต่อนโยบายต่างประเทศ โดยในกรณีนี้ ได้แก่ ทัศนะผู้นำของอาเบะ ที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมของพรรค LDP ร่วมสนับสนุนในด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคง ทำให้เขามีทัศนะแข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือ และต้องการขยายขอบเขตหน้าที่ของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น (SDF) และยังมีปัจจัยภายในจากภาคประชาสังคมคือ กลุ่มสมาคม Kazokukai กับ Sukukai ที่มีบทบาทในการผลักดันให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการลักพาตัว และ กลุ่มสื่อมวลชนญี่ปุ่น ที่ขยายประเด็นการลักพาตัวและยังทำให้ประชาชนรับรู้ในปัจจุบัน ปัจจัยทั้งหมดนี้เป็นตัวแปรสำคัญในการผลักดันให้รัฐบาลญี่ปุ่นมีท่าทีระแวดระวังต่อเกาหลีเหนือ