มุมมองต่อการเลือกเข้าทำงานในบรรษัทข้ามชาติด้านธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค: กรณีศึกษาแผนกฝ่ายขาย บริษัท Mars Thailand Inc.

นฤเบศร์ ชมภูทอง

dc.contributor.advisor	ศิริมา ทองสว่าง
dc.contributor.author	นฤเบศร์ ชมภูทอง
dc.contributor.other	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะรัฐศาสตร์
dc.date.accessioned	2021-09-21T06:35:59Z
dc.date.available	2021-09-21T06:35:59Z
dc.date.issued	2563
dc.identifier.uri	http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/76442
dc.description	สารนิพนธ์ (รป.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2563
dc.description.abstract	การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อทราบถึงองค์ประกอบของแรงจูงใจที่ส่งผลต่อมุมมองการเลือกเข้าทำงานของบุคลากรแผนกฝ่ายขาย กรณีบรรษัทข้ามชาติด้านธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์ 2. เพื่อมีแนวทางในการนำเสนอแบรนด์นายจ้าง (Employer branding) ให้ตรงกลุ่มผู้สมัคร และ3. เพื่อสร้างความเข้มแข็งต่อการวางแผนกลยุทธ์แบรนด์นายจ้าง (Employer branding) ให้กับองค์การ กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดมี 10 ราย โดยแบ่งเป็นบุคลากรแผนกฝ่ายขาย บริษัท มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์ จำนวน 5 ราย บุคลากรฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัท มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์ จำนวน 3 ราย และบริษัทจัดหางาน จำนวน 2 ราย วิธีวิจัย คือการสัมภาษณ์เชิงลึกแบบรายบุคคล การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) ผลการศึกษาพบว่า 1. องค์ประกอบของแรงจูงใจที่ส่งผลต่อมุมมองการเลือกเข้าทำงานของบุคลากรแผนกฝ่ายขาย คือชื่อเสียงขององค์การ การเสนอค่าจ้าง และการได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม รวมไปถึงความรู้สึกการเป็นส่วนหนึ่งขององค์การในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ 2. องค์การมีการนำเสนอภาพลักษณ์แบรนด์นายจ้างผ่านมุมมองของบุคลากรต่อความภาคภูมิใจในการได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์การผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ อย่างไรก็ตามบุคลากรแผนกฝ่ายขายรับรู้ถึงภาพลักษณ์แบรนด์นายจ้างผ่านเครือข่ายสังคมออฟไลน์ หรือเครือข่ายในการทำงานของตนมากกว่าเครือข่ายสังคมออนไลน์ และ3. องค์การสร้างเสริมแผนกลยุทธ์แบรนด์นายจ้างผ่านการบริหารจัดการทุนมนุษย์ด้านกระบวนการสรรหาเพื่อให้ได้มาซึ่งบุคลากรที่มีคุณสมบัติตามที่องค์การต้องการด้วยวิธีการตรวจสอบประวัติภูมิหลัง และมุมมองในการทำงานจากบุคคลอ้างอิง
dc.description.abstractalternative	The objectives of this research were 1. to identify the motivation components affecting the perspectives on decision making to join a multinational company in consumer goods business under a case study of the sales team of Mars Thailand Inc., 2. to propose employer branding guidelines to the appropriate applicant group, and 3. to strengthen the employer brand strategy planning. There were 10 samples, comprising five sales team personnel and three personnel from Human Resources Department of Mars Thailand Inc., and 2 individuals from recruiting companies. In-depth interview was used as a research method. Data were analyzed through content analysis. The results indicated that 1. the motivation components affecting the perspectives on decision making to join a multinational company were organizational reputation, wage offer and reasonable compensation including sense of belonging in the workplace. 2. Employer branding was proposed through personnel’s perspective of pride in sense of belonging in the workplace via online social networks. However, sales team personnel perceived employer branding through offline social networks or internal job network rather than online social networks and 3. Employer branding strategy was strengthened through human capital management in the recruitment process to acquire the qualified personnel required by the organization through background checks and perspectives on work from references.
dc.language.iso	th
dc.publisher	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
dc.relation.uri	http://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2020.446
dc.rights	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
dc.subject.classification	Social Sciences
dc.title	มุมมองต่อการเลือกเข้าทำงานในบรรษัทข้ามชาติด้านธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค: กรณีศึกษาแผนกฝ่ายขาย บริษัท Mars Thailand Inc.
dc.title.alternative	Perspectives on decision making to join a multinational company in consumer goods business:a case study of the sales team of Mars Thailand inc.
dc.type	Independent Study
dc.degree.name	รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต
dc.degree.level	ปริญญาโท
dc.degree.discipline	รัฐประศาสนศาสตร์
dc.degree.grantor	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
dc.identifier.DOI	10.58837/CHULA.IS.2020.446