Abstract:
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดสัดส่วนของเสียและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากข้อบกพร่องประเภทสีแตกในกระบวนการพ่นสีชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ โดยการนำแนวคิดซิกซ์ ซิกมา (Six Sigma) มาประยุกต์ใช้การดำเนินงานวิจัย เริ่มจากการศึกษาสภาพปัญหาและกระบวนการทำงาน ต่อมาทำการวิเคราะห์ความแม่นยำและถูกต้องของระบบการวัดโดยการตรวจสอบข้อบกพร่องประเภทสีแตกด้วยสายตา จากนั้นทำการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาด้วยแผนภาพแสดงเหตุและผล และเรียงลำดับความสำคัญของปัจจัย โดยใช้ตารางแสดงเหตุและผล และทำการคัดเลือกปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลต่อการเกิดปัญหาสีแตก ซึ่งมีทั้งหมด 4 ปัจจัย ได้แก่อุณหภูมิในการล้างชิ้นงาน ความดันในการล้างชิ้นงาน แรงดันไฟฟ้าในการชุบสี ED และวิธีการขัดผิวชิ้นงาน จากนั้นในขั้นตอนปรับปรุงกระบวนการ ได้แบ่งการทดลองออกเป็น 2 ส่วน คือ ทดสอบสมมติฐานของวิธีการขัดผิวชิ้นงาน พบว่า วิธีการขัดทั้งแนวนอนและแนวตั้งเกิดสัดส่วนของเสียน้อยกว่าวิธีการขัดเฉพาะแนวนอนอย่างมีนัยสำคัญ จึงได้ทำการปรับปรุงวิธีการขัดเป็นแบบขัดทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ในส่วนของอุณหภูมิในการล้างชิ้นงาน ความดันในการล้างชิ้นงาน และแรงดันไฟฟ้าในการชุบสี ED ทำการออกแบบพื้นผิวผลตอบแบบบ็อกซ์-เบห์นเคน จากนั้นทำการหาค่าระดับปัจจัยที่เหมาะสม ซึ่งค่าปัจจัยที่เหมาะสม คือ อุณหภูมิในการล้างชิ้นงาน เท่ากับ 40 องศาเซลเซียส ความดันในการล้างชิ้นงาน เท่ากับ 1.4 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร และแรงดันไฟฟ้าในการชุบสี ED เท่ากับ 180 โวลต์ หลังจากนั้นนำค่าปัจจัยที่เหมาะสมนี้ไปปรับใช้จริงในกระบวนการ เพื่อยืนยันผลการทดลองที่ได้ และจัดทำแผนควบคุมและวิธีการปฏิบัติงานใหม่หลังจากปรับปรุงกระบวนการ พบว่า สามารถลดสัดส่วนของเสียประเภทสีแตกจาก 3.82 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 0.97 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งลดลงไปได้ 2.85 เปอร์เซ็นต์ และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากข้อบกพร่องประเภทสีแตกลดลงจาก 132,898 บาท เหลือ 27,603 บาท ซึ่งลดลงไปได้ 105,295 บาท