Abstract:
การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาที่รวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัล ส่งผลให้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนไป ใน
หลายๆ ด้าน ซึ่งรวมถึงการทำธุรกรรมต่างๆ ในปัจจุบันที่มีแนวโน้มที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการทำธุรกรรมจากการ
ติดต่อโดยตรง ไปสู่การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เนื่องจากการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีความ
รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีสถานะทางกฎหมาย จึงมีการตรา
พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมขึ้น มีเจตนารมณ์เพื่อรับรอง
การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และส่งเสริมการทำธุรกรรมของผู้ประกอบการเอกชนเพื่อยกระดับอุตสาหกรรม
ให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ดังนั้น จึงมีความจำเป็นในการมุ่งศึกษาปัญหาของพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส พ.ศ. 2544 การประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.
2544 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อเสนอแนวทางที่เหมาะสมเบื้องต้นในการปรับปรุงเพิ่มเติมแก้ไขกฎหมายและ
แนวทางการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย
จากการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 และฉบับ
แก้ไขเพิ่มเติม ในมุมมองของภาคเอกชนที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจ พบว่า ผู้ประกอบการเห็นถึงความจำเป็นของการ
ตราพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม แต่ในมิติของการบังคับ
ใช้กฎหมายพบว่า พบว่า ปัจจุบันกฎหมายยังไม่สามารถใช้บังคับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากความไม่พร้อม
ของภาครัฐที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น จึงมีข้อเสนอแนะดังนี้
ภาครัฐที่เกี่ยวข้องควรมีการส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐอื่นๆ สามารถรับรองธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์โดย
ผลักดันภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้สร้างความตระหนักรู้ให้แก่บุคลากรภาครัฐในหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดความรู้ความ
เข้าใจ รวมไปถึงความจำเป็นในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
การรับรองพยานหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้การปฏิบัติจริงสอดคล้องกับกับเจตนารมณ์ทางกฎหมาย
แม้ว่าพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มีเจตนารมณ์เพื่อรองรับผลทางกฎหมายของ
ข้อความที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้มีความเท่าเทียมทางกฎหมายให้เท่าเทียมกับข้อความที่อยู่ในรูปของ
เอกสารกระดาษ
การเพิ่มเติมส่วนของกระบวนการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางกฎหมายให้ชัดเจนมากขึ้น โดยการมีหลักเกณฑ์ที่
ชัดเจนในการเปรียบเทียบระหว่างผลกระทบและผลสัมฤทธิ์ รวมถึงแนวทางในการนำผลสัมฤทธิ์มาไปพิจารณา
ต่อไป
การส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสนับสนุนและ
ส่งเสริมการพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ หน่วยงานรัฐควรมีการ
ส่งเสริมและสนันสนุนให้ผู้ประกอบการมีการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่
ผู้ประกอบการ โดยออกแนวทางหรือมาตรฐานที่ครอบคลุมและมีความเหมาะสมกับบริบทของแต่ละธุรกิจ