Abstract:
สารนิพนธ์ฉบับนี้ต้องการศึกษาความล่าช้าในการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ซึ่งถือเป็นโครงการที่สำคัญในการสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับจีนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยและจีนผ่านการสร้างระบบเครือข่ายการคมนาคมขนส่งในภูมิภาค ทั้งนี้ การที่จีนให้การรับรองรัฐบาลรัฐประหารในไทยที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในปี ค.ศ. 2014 เปิดโอกาสให้จีนเข้ามาผลักดันให้รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการสานต่อโครงการดังกล่าว ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐบาลทั้งสองจะทำให้การดำเนินการโครงการฯ เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ในความเป็นจริงเกิดความล่าช้ามาโดยทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้อย่างรวดเร็ว จากการศึกษาครั้งนี้พบว่า ความล่าช้าดังกล่าวเกิดจากความพยายามของรัฐบาลไทยที่ต้องการรักษาสมดุลระหว่างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับจีนและความชอบธรรมภายในประเทศ ในขณะที่รัฐบาลไทยให้ฝ่ายจีนเป็นผู้ดำเนินการโครงการฯ โดยปราศจากคู่แข่ง แต่ก็พยายามแสดงให้สาธารณชนเห็นว่าการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนมิได้ทำให้ไทยต้องอ่อนข้อและอาจทำให้ประเทศไทยเสียผลประโยชน์แห่งชาติดังที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ จึงส่งผลให้การเจรจาไม่สามารถหาข้อยุติได้โดยง่าย ซึ่งสร้างความไม่พึงพอใจให้กับฝ่ายจีนและกลายมาเป็นประเด็นปัญหาท้าทายต่อรัฐบาลในการดำเนินความสัมพันธ์กับจีน กรณีศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ฯ จะมีอำนาจเด็ดขาดในการดำเนินนโยบายแต่ยังคงต้องรักษาความชอบธรรมของระบอบการปกครองแบบเผด็จการท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงในไทยที่มีมาตลอดทศวรรษนับตั้งแต่การรัฐประหารโค้นล้มรัฐบาลพันตำรวจเอกทักษิณ ชินวัตร ในปี ค.ศ. 2006