Abstract:
การวิจัยเรื่องปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการแปรรูปรัฐวิสาหกิจสาขาสื่อสารในประเทศไทยในครั้งนี้ ผู้วิจัยมีวัตถุประสงค์ในการวิจัย คือ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ2) เพื่อศึกษาการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในรูปแบบต่าง ๆ และ 3) เพื่อศึกษาทัศนะของพนักงานต่อปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ พนักงานที่ปฏิบัติงานในรัฐวิสาหกิจสาขาสื่อสาร รวม 4 รัฐวิสาหกิจ รวมมีจำนวนพนักงานทั้งสิ้น 49,596 คน สุ่มตัวอย่างโดยใช้แนวคิดการกำหนดขนาดตัวอย่างของทาโร่ ยามาเน่ กำหนดความคลาดเคลื่อนที่ 5 % ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 396 คน ผลการวิจัยพบว่าความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มตัวแปรการให้เงินสนับสนุนรัฐวิสาหกิจกับตัวแปรตามการแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้น พบว่าการให้เงินสนับสนุนรัฐวิสาหกิจมีความสัมพันธ์กับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจอยู่ในระดับปานกลาง (0.602) มีอิทธิพลต่อการแปรรูปรัฐวิสาหกิจสูงถึง 36.20% มีค่าความคลาดเคลื่อนในการทำนายประมาณ 0.52 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 โดย การให้เงินอุดหนุนแก่รัฐวิสาหกิจที่ให้บริการแก่ประชาชน มีความสำคัญต่อการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ(0.369) มากที่สุด รองลงมาคือการให้เงินอุดหนุนแก่รัฐวิสาหกิจที่เป็นผู้ผลิตสินค้า (0.105) ตามลำดับ ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มตัวแปรเงินลงทุน ความรู้ด้านการจัดการ และเทคโนโลยีจากภาคเอกชนหรือนักลงทุนต่างประเทศกับตัวแปรตามการแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้น พบว่าเงินลงทุน ความรู้ด้านการจัดการ และเทคโนโลยีจากภาคเอกชนหรือนักลงทุนต่างประเทศ มีความสัมพันธ์กับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจอยู่ในระดับสูง (0.724) มีอิทธิพลต่อการแปรรูปรัฐวิสาหกิจสูงถึง 52.50% มีค่าความคลาดเคลื่อนในการทำนายประมาณ 0.449 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 โดยภาคเอกชนสามารถใช้เทคโนโลยีการบริหาร เพื่อการปรับปรุงกิจการของรัฐวิสาหกิจ มีความสำคัญต่อการแปรรูปรัฐวิสาหกิจสูงสุด (0.362) รองลงมาเป็นการดึงดูดเงินลงทุน เป็นการปรับปรุงกิจการของรัฐวิสาหกิจ (0.204) และ ความรู้ด้านการจัดการหรือเทคโนโลยีจากภาคเอกชน เป็นการปรับปรุงกิจการของรัฐวิสาหกิจ (0.136) ตามลำดับ ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มตัวแปรภาระหนี้สินของรัฐบาลกับตัวแปรตามการแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้น พบว่าภาระหนี้สินของรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจอยู่ในระดับสูง (0.727) มีอิทธิพลต่อการแปรรูปรัฐวิสาหกิจสูงถึง 52.80% มีค่าความคลาดเคลื่อนในการทำนายประมาณ 0.448 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 โดยการลดปัญหาด้านงบประมาณรายจ่าย เป็นการลด ภาระหนี้สินของรัฐบาล มีความสำคัญต่อการแปรรูปรัฐวิสาหกิจสูงสุด (0.218) รองลงมาเป็นการลดภาระหนี้สินของรัฐบาล สามารถทำได้โดยการดึงภาคเอกชนเข้ามาดำเนินการ(0.201) และการลดปัญหาด้านงบประมาณรายจ่าย เป็นการลดการลงทุนของรัฐบาล (0.130) ตามลำดับ