Abstract:
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ที่จะใช้เทคนิคการผสมเทียมไปใช้ในฟาร์มสุกรรายย่อยขนาดไม่เกิน 10 แม่ และศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการผสมเทียม แม่สุกรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้มีจำนวน 171 แม่จาก 86 ฟาร์ม เป็นแม่สุกรที่ได้รับการผสมเทียม 121 แม่และผสมธรรมชาติ 50 แม่ ผลการศึกษาพบว่าการผสมเทียมมีอัตราไม่กลับสัดและอัตราเข้าคลอดดีกว่าผสมธรรมชาติ (ร้อยละ 82.00 เทียบกับ ร้อยละ 84.00 และ ร้อยละ 74.00 เทียบกับ ร้อยละ 66.00 ตามลำดับ) (p<0.05) ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการผสมเทียมในฟาร์มรายย่อยได้แก่ การที่มีโรงเรือนยกพื้น มีกรงเหล็กและมีพ่อสุกรภายในฟาร์มจะทำให้อัตราเข้าคลอดดีกว่าฟาร์มที่ไม่มีโรงเรือนยกพื้น มีคอกไม้และไม่มีพ่อสุกรภายในฟาร์ม (ร้อยละ 86.0 เทียบกับร้อยละ 77.5, ร้อยละ 85.7 เทียบกับ ร้อยละ 74.5 และ ร้อยละ 83.7 เทียบกับ ร้อยละ 69.2 ตามลำดับ) (p<0.05) และการที่มีพ่อกระตุ้นภายในฟาร์มยังมีจำนวนลูกต่อครอกสูงกว่าฟาร์มที่ไม่มีพ่อสุกรภายในฟาร์ม (10.8+-2.45 ตัว เทียบกับ 9.0+-1.04 ตัว) งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าการผสมเทียมให้ผลทางสมรรถภาพทางระบบสืบพันธุ์ใกล้เคียงกับผสมธรรมชาติ นอกจากนี้ยังพบว่ามีปัจจัยอย่างน้อย 2 ปัจจัยคือ ปัจจัยด้านโรงเรือนและปัจจัยด้านพ่อสุกรที่ใช้กระตุ้นภายในฟาร์มที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการบริการผสมเทียมในฟาร์มเกษตรกรรายย่อย