การบริหารด้วยฐานกิจกรรมในโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศรถยนต์

Abstract

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประยุกต์ใช้ต้นทุนฐานกิจกรรม(Activity Based Costing : ABC) และการบริหารด้วยฐานกิจกรรม (Activity Based Manament : ABM)ในโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศรถยนต์ ให้มีความถูกต้องและแม่นยำในเรื่องของข้อมูลต้นทุน และลดต้นทุนในการดำเนินงาน ในการศึกษานี้เริ่มจากการศึกษาข้อมูลของโรงงานตัวอย่างซึ่งมีวิธีการคิดต้นทุนแบบเน้นไปที่ตัวผลิตภัณฑ์ โดยใช้ชั่วโมงแรงงานทางตรงเป็นเกณฑ์ในการปันค่าใช้จ่ายการผลิต จากนั้นจึงทำการพัฒนาระบบต้นทุนแบบเดิมไปสู่ระบบต้นทุนฐานกิจกรรม และนำข้อมูลต้นทุนฐานกิจกรรมที่ได้มาทำการปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานด้วยระบบการบริหารด้วยฐานกิจกรรม โดยเริ่มจากการคัดเลือกกิจกรรมที่ควรค่าแก่การปรับปรุงโดยพิจารณาจากต้นทุนรวมและต้นทุนต่อหน่วยของตัวผลักดันต้นทุนจากนั้นจึงทำการกำหนดเป้าหมายในการปรับปรุงทำการวิเคราะห์ว่ากิจกรรมใดบ้างที่มีการใช้เงินอย่างไม่คุ้มค่าและไม่ได้ตรงกับเป้าหมายที่วางเอาไว้ซึ่งพิจารณาจากค่าความแปรปรวนของต้นทุน(Cost Variance : CV) จากนั้นจึงทำการกำหนดมาตรการในการปรับปรุงการดำเนินงานและทำการปรับปรุงการดำเนินงานตามมาตรการที่กำหนด ผลการศึกษาวิจัยทำให้ได้ระบบต้นทุนฐานกิจกรรม ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับระบบต้นทุนแบบเดิมนั้น ยกตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์ Solenoid ของฝ่ายผลิตที่ 2 ซึ่งถ้าคิดต้นทุนแบบเดิมจะมีต้นทุน 1,657,669.47 บาท แต่เมื่อคิดด้วยระบบต้นทุนฐานกิจกรรมจะเหลือเพียง 1,169,507.63 บาท ซึ่งเป็นต้นทุนที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์ ส่วนระบบการบริหารด้วยฐานกิจกรรมทำให้เราสามารถคัดเลือกกิจกรรมที่ควรค่าแก่การปรับปรุงซึ่งจากกิจกรรมต่างๆที่คัดเลือกมามีค่าความแปรปรวนของต้นทุนเป็นลบหมดแสดงว่าทุกกิจกรรมที่ทำการคัดเลือกมานั้นมีการใช้เงินอย่างไม่คุ้มค่าและไม่ได้งานตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ และจากการนำมาตรการไปใช้ในการปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานพบว่าค่าความแปรปรวนของต้นทุนที่ได้มีค่าเป็นบวกคือมีการใช้เงินอย่างคุ้มค่าตามเป้าหมายที่วางไว้และต้นทุนการดำเนินงานในแต่ละกิจกรรมมีค่าลดลง ยกตัวอย่าง กิจกรรม Distributor ของฝ่ายผลิตที่ 1 แต่เดิมมีค่าต้นทุนต่อหน่วยของตัวผลักดันต้นทุนเฉลี่ยที่ 1,177.17 บาทต่อชั่วโมงแรงงาน หลังจากการปรับปรุงการดำเนินงานแล้วเหลือเพียง 964.24 บาทต่อชั่วโมงแรงงานเท่านั้น