Abstract:
เอกัตศึกษาฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับแอนิเมชั่นของ
ผู้ประกอบการจดทะเบียนในประเทศไทยที่มีการส่งออกไปให้บริการในต่างประเทศ แล้วมีการส่งแอนิเมชั่นนั้น
ย้อนกลับมาใช้บริการในประเทศไทย วิเคราะห์ปัญหาของการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ส่งผลต่อผู้ประกอบการจด
ทะเบียนในประเทศไทย และศึกษาหลักกฎหมายการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าบริการของประเทศ
สาธารณรัฐสิงคโปร์ประกอบกับแนวทางการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากธุรกรรมระหว่างประเทศกรณีการให้บริการ
ทางการค้าระหว่างผู้ประกอบการขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อให้ทราบ
ถึงแนวคิดที่สำคัญและข้อดีของแนวทางดังกล่าว นำไปสู่การเสนอแนวทางปรับปรุงการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อ
ประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีอากร
จากการศึกษาพบว่า การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับแอนิเมชั่นของผู้ประกอบการจดทะเบียนในประเทศ
ไทยที่มีการส่งออกไปให้บริการในต่างประเทศ แล้วมีการส่งแอนิเมชั่นนั้นย้อนกลับมาใช้บริการในประเทศไทย ไม่
สอดคล้องกับหลักปลายทาง เจ้าหน้าที่สรรพากรใช้อำนาจในการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการที่ได้
แสดงรายการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มจากอัตราร้อยละ 0 เป็นอัตราร้อยละ 7 ทำให้ผู้ประกอบการต้องเป็นผู้แบก
รับภาระภาษีการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มในลักษณะดังกล่าวจะนำไปสู่ปรากฏการณ์ต่อต้านการเพิ่มผลผลิต
กล่าวคือ ผู้ประกอบการมีแนวโน้มที่จะเลือกทำธุรกิจที่ไม่ถูกจัดเก็บภาษีแทนกิจกรรมทางเศรษฐกิจเดิมที่ตนมี
ความสามารถหรือความถนัด
สำหรับการจัดเก็บภาษีสินค้าและบริการของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์มีบทบัญญัติที่ชัดเจนในหลัก
กฎหมายการจัดเก็บภาษีสินค้าและบริการจากการให้บริการระหว่างประเทศและหลักกฎหมายการจัดเก็บภาษี
สินค้าและบริการจากการนำเข้าสินค้าเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถพิจารณากำหนดผู้รับบริการที่ได้รับ
ผลประโยชน์โดยตรงจากสินค้าหรือการให้บริการ ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงถึงจุดสิ้นสุดของการบริโภคสินค้าและให้บริการ
นั้นๆ ด้วยตนเองได้
ผู้เขียนจึงเสนอแนะว่า ให้บัญญัติหลักกฎหมายให้ชัดเจนเพื่อหลีกเลี่ยงการตีความและการใช้ดุลยพินิจส่วน
บุคคลของเจ้าหน้าที่สรรพากรในการประเมิน นอกจากนี้ควรมีการกำหนดความหมายของการให้บริการระหว่าง
ประเทศอย่างละเอียด เพื่อที่จะสามารถกำหนดสถานที่ของผู้รับบริการในต่างประเทศ ซึ่งเป็นหลักในการพิจารณา
การได้รับสิทธิในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 เนื่องจากปัจจุบันมีโอกาสอย่างยิ่งที่บริการที่เคยให้บริการ
ไปแล้วในอดีต จะกลับมามีผลใช้บริการในประเทศไทยอีก