dc.contributor.advisor |
ณรงค์เดช สรุโฆษิต |
|
dc.contributor.author |
ปันธวีย์ เรืองวงษ์ศา |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2022-06-02T08:08:23Z |
|
dc.date.available |
2022-06-02T08:08:23Z |
|
dc.date.issued |
2564 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/78704 |
|
dc.description |
เอกัตศึกษา (ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2564 |
en_US |
dc.description.abstract |
กรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์กลางความเจริญและเป็นศูนย์รวมของประชากรจํานวนมาก จึงส่งผล
ให้เกิดปัญหาการจราจรบนท้องถนนมาอย่างยาวนาน ปัญหานี้เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยแต่ปัจจัยหลักคงหนี
ไม่พ้นเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนน ซี่งอุบัติเหตุส่วนมากเกิดขึ้นจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่ไม่ยอมปฏิบัติตาม
กฎหมายและบ่อยครั้งที่พบว่าผู้ขับขี่รถโดยสารประจําทางก็มีพฤติกรรมการขับขี่ที่เสี่ยงต่อการเกิด
อุบัติเหตุด้วยเช่นกัน จากสถิติการรับเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่รถโดยสาร
ประจําทางในกรุงเทพมหานครที่มีการร้องเรียนเป็นจํานวนมาก เช่น ขับแทรกและปาดหน้ารถร่วมทาง
ขับรถเร็ว ขับรถกระชาก กลับรถในที่ห้ามกลับ และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ถือ
ว่าเป็นพฤติกรรมที่ผู้ขับขี่รถโดยสารประจําทางไม่ควรกระทําเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้ขับขี่รถโดยสาร
ประจําทางควรมีจิตสํานึกที่ดีในการให้บริการและควรตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสําคัญ
จากการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นปัญหาดังกล่าวพบว่ากฎหมายที่ใช้ในการกํากับดูแล
พฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่รถโดยสารประจําทางในกรุงเทพมหานครมีการบัญญัติบทลงโทษผู้กระทําผิด
ไว้ค่อนข้างเบาและกฎหมายมีช่องว่างให้ผู้กระทําผิดมีโอกาสในการกระทําผิดซ้ำ จึงส่งผลให้ผู้ขับขี่รถ
โดยสารประจําทางในกรุงเทพมหานครไม่เกรงกลัวต่อมาตรการที่ใช้ในการลงโทษตามที่กฎหมายได้บัญญัติ
ไว้ เมื่อเปรียบเทียบกับกฎหมายที่ใช้ในการกํากับดูแลพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่รถโดยสารประจําทาง
ในประเทศสิงคโปร์ที่มีการบัญญัติบทลงโทษผู้กระทําผิดไว้ค่อนข้างสูงอีกทั้งยังมีการเพิ่มโทษในกรณีที่มี
การกระทําผิดซ้ํ้ำในความผิดเดิม จึงส่งผลให้พฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่รถโดยสารประจําทางของ
ประเทศสิงคโปร์มีมาตราฐานที่ดี ดังนั้นจึงควรปรับปรุงแนวทางการกํากับดูแลพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับ
ขี่รถโดยสารประจําทางในกรุงเทพมหานคร
โดยผู้เขียนขอเสนอให้มีการพิจารณาแก้ไขระเบียบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการพักใช้หรือ
เพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ. 2564 ในข้อ 12 และข้อ 16
คือขอให้พิจารณาเพิ่มโทษในกรณีที่มีการกระทําผิดซ้ำในความผิดเดิมและกำหนดระยะเวลาในการกระทํา
ผิดซ้ำห้แคบลง ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกํากับดูแลให้มีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น |
en_US |
dc.language.iso |
th |
en_US |
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.relation.uri |
http://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2021.170 |
|
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.subject |
กฎจราจร |
en_US |
dc.subject |
อุบัติเหตุรถประจำทาง |
en_US |
dc.title |
แนวทางการกำกับดูแลพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่รถโดยสารประจำทางในกรุงเทพมหานคร |
en_US |
dc.type |
Independent Study |
en_US |
dc.degree.name |
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
en_US |
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
en_US |
dc.degree.discipline |
กฎหมายเศรษฐกิจ |
en_US |
dc.degree.grantor |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.email.advisor |
narongdech.s@chula.ac.th |
|
dc.subject.keyword |
พนักงานขับรถโดยสารประจำทาง |
en_US |
dc.subject.keyword |
ปัญหาการจราจร |
en_US |
dc.identifier.DOI |
10.58837/CHULA.IS.2021.170 |
|