dc.contributor.advisor |
มานิตย์ จุมปา |
|
dc.contributor.author |
รวิศา โสพร |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2022-06-06T03:38:25Z |
|
dc.date.available |
2022-06-06T03:38:25Z |
|
dc.date.issued |
2564 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/78717 |
|
dc.description |
เอกัตศึกษา (ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2564 |
en_US |
dc.description.abstract |
วิสาหกิจเริ่มต้นหรือสตาร์ทอัพเป็นกลไกสําคัญอย่างหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ
ประเทศ การมีธุรกิจสตาร์ทอัพจํานวนมากจะช่วยให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศเจริญเติบโต ดึงดูด
นักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย สร้างอาชีพและรายได้ให้กับคนในประเทศ
ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม
ในการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพนั้น จําเป็นจะต้องมีแหล่งเงินทุนเพื่อเข้ามาสนับสนุนธุรกิจ
ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนกระทั่งเติบโตและขยายธุรกิจเพื่อเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ ในอนาคต ปัจจุบันแหล่ง
เงินทุนที่สําคัญสําหรับสตาร์อัพ คือ ธุรกิจเงินร่วมลงทุน หรือ Venture Capital (VC) มีสตาร์ทอัพ
มากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ประสบความสําเร็จเพราะได้รับเงินสนับสนุนจากธุรกิจเงิน
ร่วมลงทุน เนื่องจากนักลงทุนประเภทนี้มีความเข้าใจในธุรกิจสตาร์ทอัพและมองเห็นถึงศักยภาพของ
ธุรกิจ สามารถยอมรับความเสี่ยงในระดับที่สูง สามารถให้คําแนะนําและเป็นที่ปรึกษาด้านการดําเนิน
ธุรกิจ โดยมีเป้าหมายร่วมกับเจ้าของสตาร์ทอัพ คือ ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตจนประสบความสําเร็จ เพื่อ
ผลตอบแทนที่มีมูลค่าสูง
มาตรการส่งเสริมธุรกิจเงินร่วมลงทุนที่มีอยู่ในปัจจุบันของประเทศไทยเมื่อเปรียบเทียบกับ
ต่างประเทศพบว่าประเทศไทยมีข้อจํากัดบางประการที่ทําให้ไม่สามารถดึงดูดนักลงทุนได้เท่าที่ควร มี
สภาพแวดล้อมในการทําธุรกิจเงินร่วมลงทุนที่เป็นอุปสรรค เช่น มีการร่างพระราชบัญญัติการพัฒนา
และส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น พ.ศ. .... ตั้งแต่ปี 2559 จนกระทั่งปัจจุบัน แต่ยังไม่สามารถตราเป็น
พระราชบัญญัติเพื่อใช้บังคับเป็นการทั่วไป มาตรการยกเว้นภาษีกําไรจากลงทุนและเงินปันผลจากการ
ลงทุนขาดความต่อเนื่อง โครงการ SMART Visa ที่ให้สิทธิพิเศษแก่ชาวต่างชาติที่เป็นนักลงทุนไม่
ครอบคลุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรมและไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกับนโยบายรัฐบาล เป็นต้น
จากการศึกษามาตรการส่งเสริมธุรกิจเงินร่วมลงทุนของประเทศสิงคโปร์และอิตาลี ในด้าน
กฎหมาย มาตรการทางภาษี มาตรการเชิงนโยบายของภาครัฐ ผู้เขียนเห็นว่า สามารถนําแนวคิดหรือ
รูปแบบการส่งเสริมธุรกิจเงินร่วมลงทุนบางประการมาปรับใช้ตามความเหมาะสมของบริบทและ
สภาพแวดล้อมของประเทศไทย โดยปรับปรุงกฎหมายให้เอื้ออํานวยต่อการลงทุน เพิ่มมาตรการ
ยกเว้นภาษีกําไรจากลงทุนและเงินปันผลจากการลงทุนในสตาร์ทอัพ เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่นัก
ลงทุนต่างชาติ ตลอดจนรัฐบาลจัดตั้งกองทุนร่วมกับธุรกิจเงินร่วมลงทุนเพื่อสนับสนุนเงินทุนให้แก่
สตาร์อัพ หากประเทศไทยมีมาตรการส่งเสริมธุรกิจเงินร่วมลงทุนที่เหมาะสมจะช่วยดึงดูดนักลงทุนให้
มีส่วนร่วมในการสนับสนุนสตาร์ทอัพให้สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนซึ่งจะช่วยขับเคลื่อน
ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย |
en_US |
dc.language.iso |
th |
en_US |
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.relation.uri |
http://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2021.182 |
|
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.subject |
สตาร์ทอัพ |
en_US |
dc.subject |
ธุรกิจเงินร่วมลงทุน |
en_US |
dc.title |
มาตรการส่งเสริมธุรกิจเงินร่วมลงทุนเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจเริ่มต้น |
en_US |
dc.type |
Independent Study |
en_US |
dc.degree.name |
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
en_US |
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
en_US |
dc.degree.discipline |
กฎหมายเศรษฐกิจ |
en_US |
dc.degree.grantor |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.email.advisor |
manit_j@yahoo.com |
|
dc.subject.keyword |
วิสาหกิจ |
en_US |
dc.subject.keyword |
การส่งเสริมธุรกิจ |
en_US |
dc.identifier.DOI |
10.58837/CHULA.IS.2021.182 |
|