Abstract:
งานวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาแบคทีเรียที่มีความสามารถยับยั้ง Pyricularia oryzae ที่ก่อ โรคไหม้ในข้าว โดยนำแบคทีเรีย 10 สายพันธุ์ที่คัดแยกมาจากดินและน้ำทะเลจากงานวิจัยก่อนหน้านี้มา ทดสอบความสามารถในการยับยั้งราด้วยวิธี dual culture และพบว่าแบคทีเรียสายพันธุ์ M23, M25 และ M26 มีความสามารถยับยั้ง P. oryzae ได้สูงที่สุด ด้วยเปอร์เซ็นต์การยับยั้ง 48.33, 50.00 และ 55.00% ตามลำดับ จึงเลือก 3 สายพันธุ์ข้างต้นไปทดสอบความสามารถในการยับยั้งราด้วยน้ำเลี้ยงเชื้อ ปราศจากเซลล์ พบว่าน้ำเลี้ยงเชื้อปราศจากเซลล์ของแบคทีเรียสายพันธุ์ M25 แสดงความสามารถในการ ยับยั้งสูงที่สุด โดยมีเปอร์เซ็นต์การยับยั้งได้ 54.07% รองลงมาคือ สายพันธุ์ M26 ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์การ ยับยั้ง 45.53% และสายพันธุ์ M23 ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์การยับยั้ง 36.58% จากนั้นนำแบคทีเรียทั้ง 3 สาย พันธุ์ ไปทดสอบเพื่อหาภาวะที่เหมาะสมของแบคทีเรียในการเพิ่มประสิทธิภาพการยับยั้งรา จากการ ทดสอบหาอาหารเลี้ยงเชื้อที่เหมาะสม ได้แก่ Luria-Bertani (LB), Nutrient Broth (NB) และ Tryptic Soy Broth (TSB) พบว่าเมื่อเลี้ยงแบคทีเรียด้วยอาหาร LB มีการยับยั้งรามากที่สุด โดยน้ำเลี้ยงเชื้อที่ ปราศจากเซลล์ของแบคทีเรียสายพันธุ์ M25 แสดงความสามารถในการยับยั้ง P. oryzae สูงที่สุด โดยมี เปอร์เซ็นต์การยับยั้งที่ 54.07% รองลงมาคือ สายพันธุ์ M26 โดยมีเปอร์เซ็นต์การยับยั้ง 45.53% และ สายพันธุ์ M23 โดยมีเปอร์เซ็นต์การยับยั้ง 36.58% เมื่อผันแปรค่า pH (6, 7 และ 8) ของอาหาร LB เพื่อหา pH ที่เหมาะสมต่อประสิทธิภาพในการยับยั้ง P. oryzae ผลที่ได้พบว่าน้ำเลี้ยงเชื้อที่ปราศจาก เซลล์ของแบคทีเรียทั้ง 3 สายพันธุ์ที่เลี้ยงในอาหาร LB ที่ค่า pH เท่ากับ 7 มีเปอร์เซ็นต์ยับยั้งสูงที่สุด โดย น้ำเลี้ยงเชื้อที่ปราศจากเซลล์ของแบคทีเรียสายพันธุ์ M25 แสดงความสามารถในการยับยั้ง P. oryzae สูง ที่สุด โดยมีเปอร์เซ็นต์การยับยั้งที่ 67.92% รองลงมาคือ สายพันธุ์ M26 โดยมีเปอร์เซ็นต์การยับยั้ง 60.42% และสายพันธุ์ M23 โดยมีเปอร์เซ็นต์การยับยั้ง 59.17% จากผลการทดลองของงานวิจัยในครั้ง นี้ทำให้ได้แบคทีเรีย 3 สายพันธุ์ที่มีความสามารถสูงในการยับยั้ง P. oryzae ที่ก่อโรคไหม้ในข้าว และ ทราบถึงภาวะเบื้องต้นที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในยับยั้งรา โดยแสดงให้เห็นว่าแบคทีเรียทั้งสามมีศักยภาพที่ จะพัฒนาไปเป็นสารควบคุมชีวภาพ เพื่อนำไปใช้ควบคุมโรคไหม้ในข้าวได้จริงในอนาคต