Abstract:
วิทยานิพนธ์เรื่อง การสร้างสรรค์นาฏยศิลป์จากการตีความ “บาป 7 ประการ” ในบริบทของสังคมไทยใช้รูปแบบงานวิจัยเชิงสร้างสรรค์และการวิจัยเชิงคุณภาพโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหารูปแบบและแนวคิดที่ได้หลังจากการสร้างสรรค์นาฏยศิลป์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบริบทของสังคมไทยในปัจจุบันที่สืบเนื่องจากการกระทำบาปทั้ง 7 ประการ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเอกสาร การสัมภาษณ์ สื่อสารสนเทศ การสังเกตการณ์ การสัมมนา เกณฑ์การสร้างมาตรฐานในการยกย่องบุคคลต้นแบบทางนาฏยศิลป์ และประสบการณ์ส่วนตัวผู้วิจัย มาเป็นแนวทางในการวิเคราะห์ และสร้างสรรค์ผลงานทางด้านนาฏยศิลป์
ผลการวิจัยพบว่า การสร้างสรรค์ผลงานในครั้งนี้ผู้วิจัยได้นำบาปทั้ง 7 ประการที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ในบริบทของสังคมไทยในปัจจุบันมาตีแผ่ให้คนรุ่นใหม่และคนที่สนใจได้หันกลับมามองพฤติกรรมและการกระทำของตนเองที่ส่งผลทำให้สังคมไทยในปัจจุบันเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งรายบุคคลและต่อส่วนรวม อีกทั้งยังส่งผลต่อเนื่องให้เกิดเหตุการณ์อันไม่สงบสุขในสังคม รูปแบบการสร้างสรรค์นาฏยศิลป์สามารถจำแนกตามองค์ประกอบของการแสดงได้ 8 ประการ ได้แก่ 1) บทการแสดง สร้างสรรค์ขึ้นจาก บาป 7 ประการ ที่เกิดขึ้นในบริบทของสังคมไทยในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 2 องก์ ประกอบด้วย 7 ฉากการแสดง ได้แก่ องก์ 1 พยศชั่ว ประกอบด้วย ฉาก 1 อัตตา ฉาก 2 ริษยา ฉาก 3 เกียจคร้าน ฉาก 4 ตะกละและละโมบ ฉาก 5 ราคะ และฉาก 6 โทสะ องก์ 2 ประกอบด้วย ฉาก 1 พรจากพระผู้เป็นเจ้า 2) นักแสดง คัดเลือกจากความสามารถและผู้ที่มีองค์ความรู้ทางด้านนาฏยศิลป์ตะวันตก อีกทั้งมีความสามารถทางด้านการสื่อสารอารมณ์ 3) ลีลานาฏยศิลป์ นำเสนอลีลานาฏยศิลป์ในหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ นาฏยศิลป์หลังสมัยใหม่ บัลเลต์คลาสสิค ระบำสเปน นาฏยศิลป์ร่วมสมัย นาฏยศิลป์สมัยใหม่ การเต้นแจ๊ส
การด้นสด การเคลื่อนไหวในลักษณะชีวิตประจำวัน และศิลปะการแสดง 4) อุปกรณ์การแสดง นำเสนอให้สอดคล้องกับบทการแสดงทั้งด้านการสื่อสัญญะ และการสื่อความหมายแบบตรงไปตรงมา โดยเน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก 5) เสียงและดนตรีประกอบการแสดง ผู้วิจัยได้สร้างสรรค์ประพันธ์เพลงขึ้นใหม่ และเลือกใช้การบรรเลงดนตรีสด 6) เครื่องแต่งกาย ใช้แนวคิดศิลปะมินิมอลลิสม์ 7) พื้นที่ นำเสนอบริเวณพื้นที่แบบเปิด โดยเลือกใช้สถานที่ในมุมต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับบทการแสดง โดยใช้แนวคิดศิลปะเฉพาะพื้นที่ (site-specific) 8) แสง นำเสนอถึงทฤษฎีของสีที่ช่วยในการสื่อสารอารมณ์ นอกจากนี้ผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิดหลังการสร้างสรรค์ผลงานโดยคำนึงถึงแนวคิดสำคัญ ได้แก่ 1) การคำนึงถึง บาป 7 ประการ ในบริบทของสังคมไทย 2) การคำนึงถึงการสะท้อนปัญหาของสังคม 3) การคำนึงถึงการสื่อสารผู้ชม 4) การคำนึงถึงความคิดสร้างสรรค์ทางด้านนาฏยศิลป์ 5) การคำนึงความหลากหลายของรูปแบบการแสดง 6) การคำนึงการใช้สัญลักษณ์ในการสร้างสรรค์ผลงานนาฏยศิลป์ และ 7) การคำนึงถึงทฤษฎีทางด้านนาฏยศิลป์ ดุริยางคศิลป์ นฤมิตศิลป์ และทัศนศิลป์ ซึ่งผลของการวิจัยทั้งหมดนี้มีความสอดคล้อง และบรรลุตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยทุกประการ