Abstract:
ในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบการแสดงออกของโปรตีนทั้งหมด 16 ชนิด ระหว่างกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งช่องสายเสียงที่กลับมาเป็นซ้ำและกลุ่มที่ไม่กลับมาเป็นซ้ำ โดยนำตัวอย่างชิ้นเนื้อเยื่อที่ฝังในพาราฟินบล็อกมาย้อมด้วยเทคนิคอิมมูโนฮิสโตเคมี (Immunohistochemistry) ด้วยแอนติบอดี pRb780, c-Met, Ki67, RPA32, CyclinD1, P53, HIF1alpha, Bcl2, BAX, BAK, Bclxl, PI3K, B-catenin, VEGF, CD44 และ P16 โดยการแสดงออกของโปรตีนจะถูกประเมินจากภาพถ่ายดิจิทัลโดยใช้ชุดซอฟต์แวร์ Imagescope v.10.2.2.2352 (Aperio Technologies, USA) นำมาคำนวณค่ามัธยฐาน H-score และใช้สถิติ Receiver operating characteristic (ROC) curve ในการเลือกจุดตัดที่เหมาะสม (cut off point) สำหรับแบ่งกลุ่มการแสดงออกของโปรตีนในผู้ป่วย จากนั้นหาความสัมพันธฺระหว่างข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางคลินิก และการแสดงออกของโปรตีนกับอัตราการกลับมาเป็นซ้ำ ผลการศึกษาพบว่า ค่ามัธยฐาน H-score ของแอนติบอดี pRb780 เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยที่กลับมาเป็นซ้ำ (p=0.0012) ในขณะที่การแสดงออกของโปรตีน c-Met ลดลงในกลุ่มผู้ป่วยที่กลับมาเป็นซ้ำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.0014) ในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของปัจจัยต่างๆ กับการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งช่องสายเสียง เมื่อทำการวิเคราะห์ด้วย Crude hazard ratio พบว่าการแสดงออกของโปรตีน pRb780 ร่วมกับ c-Met เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งช่องสายเสียงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Hazard ratio=9.53, 95%CI=1.21-74.82) เมื่อวิเคราะห์ด้วย Adjusted hazard ratio พบว่า การแสดงออกของโปรตีน pRb780 ร่วมกับ c-Met มีความสัมพันธ์กับการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งช่องสายเสียง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Hazard ratio=8.73, 95%CI=1.09-69.75) กล่าวคือเมื่อผู้ป่วยที่มีการแสดงออกของโปรตีน pRb780 สูง ร่วมกับ การแสดงออกของโปรตีน c-Met ต่ำ จะมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ถึง 8.73 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่มีการแสดงออกของโปรตีน pRb780 ต่ำ ร่วมกับ การแสดงออกของโปรตีน c-Met สูง ดังนั้นการแสดงออกของโปรตีน pRb780 และ c-Met อาจใช้เป็นข้อมูลสำหรับการพยากรณ์การกลับมาเป็นซ้ำของผู้ป่วยโรคมะเร็งช่องสายเสียงได้