Abstract:
การเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจำนวนมากซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรม ในขณะเดียวกันภาครัฐได้มีมาตรการกักกันผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรจะต้องเข้าสู่สถานที่กักกันซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการควบคุมโรคสำหรับคนที่เข้ามาในประเทศ โดยผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรสามารถที่จะเลือกสถานที่กักกันทางเลือกได้ตามความประสงค์ จึงเป็นโอกาสของโรงแรมในการปรับตัวเป็นสถานที่กักกันทางเลือก บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ต่อธุรกิจโรงแรม วิเคราะห์ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการสถานที่กักกันทางเลือก การบริหารจัดการ การตลาด เงินทุนสภาพคล่อง การจัดการองค์กร การบริการ กายภาพ และเสนอแนวทางการพัฒนาการบริหารสถานที่กักกันทางเลือก โดยสามารถนำแนวทางการบริหารจัดการโรงแรมมาปรับใช้ เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคระบาดในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปพัฒนาธุรกิจโรงแรมเพื่อตอบโจทย์ผู้เข้าพัก งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน โดยการวิจัยเชิงคุณภาพทำการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ คือ ผู้บริหารสถานที่กักกันทางเลือก จำนวน 3 คน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 1 คน และนักออกแบบ จำนวน 1 คน วิจัยเชิงปริมาณใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและเคยใช้บริการสถานที่กักกันทางเลือกในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 385 คน ทำการวิเคราะห์ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเข้าพักสถานที่กักกันทางเลือก โดยใช้สถิติการวิเคราะห์ถดถอยเชิงเส้นพหุคูณ
ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเข้าพักสถานที่กักกันทางเลือกมากที่สุดคือ ด้านกระบวนการ (Beta เท่ากับ 0.256) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 รองลงมาคือ ด้านการส่งเสริมการตลาด (Beta เท่ากับ 0.115) และด้านราคา (Betaเท่ากับ 0.101) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สอดคล้องกับความเห็นของกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการสถานที่กักกันทางเลือก โดยมีกระบวนการให้บริการที่เป็นไปตามมาตรฐานสุขอนามัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการ ตลอดจนการนำกลยุทธ์ด้านราคาและการส่งเสริมการตลาดมาใช้