Abstract:
ปัจจัยด้านทำเลที่ตั้ง สาธารณูปโภค สาธารณูปการ และสิ่งอำนวยความสะดวกของเมืองเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดราคาขายอาคารชุดพักอาศัย โดยเฉพาะการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างมาก งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาว่ามีปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งใดบ้างที่มีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาขายอาคารชุดในพื้นที่เชื่อมต่อฝั่งตะวันตกจากศูนย์กลางธุรกิจหลักของกรุงเทพมหานคร โดยใช้การวัดระยะห่าง หรือค่าคุณลักษณะของปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งมาศึกษากับราคาขายอาคารชุดจำนวน 47 โครงการด้วยวิธีทางสถิติศาสตร์ และวิเคราะห์เชิงพื้นที่ด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อหาทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพเหมาะสมในการพัฒนาโครงการอาคารชุดระดับราคาต่างๆ ที่ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งดังกล่าว
ผลการศึกษาพบว่าปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งในพื้นที่ศึกษา สามารถจำแนกเป็นตัวแปรอิสระ 10 หมวดหมู่ รวมทั้งสิ้นจำนวน 28 ตัวแปร ซึ่งสามารถหาความสัมพันธ์ หรืออิทธิพลต่อราคาขายอาคารชุดด้วยการวิเคราะห์การถดถอยเชิงเส้นพหุด้วยวิธี STEPWISE พบว่า ปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งที่มีอิทธิพลต่อราคาขายอาคารชุดมี 8 ปัจจัย เรียงตามอิทธิพลมากไปน้อยได้ดังนี้ ระยะห่างจากศูนย์กลางธุรกิจหลัก ศูนย์กลางธุรกิจรอง โรงพยาบาลขนาดกลาง สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์การค้าภูมิภาคขนาดใหญ่ มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลขนาดใหญ่ และโรงเรียนประถมศึกษา ตามลำดับ ซึ่งระยะห่างจากอาคารชุดพักอาศัยที่เพิ่มขึ้นทุก 1 เมตรของปัจจัยดังกล่าวส่งอิทธิพลต่อราคาขายอาคารชุดให้เปลี่ยนไป -20.746, +14.569, +17.059, -18.916, +8.330, +11.883, -17.411, -41.248 บาท ตามลำดับ จากนั้นจึงนำผลการศึกษานี้มาร่วมกันทำนายราคาขายอาคารชุดในระดับราคาต่างๆ โดยสร้างเป็นแผนที่แบบจำลองราคาขายอาคารชุดด้วยวิธี Weighted Overlay Technique พบว่าสามารถเสนอแนะทำเลเหมาะสมในการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยในสำหรับราคาต่างๆ ได้ และเมื่อวิเคราะห์ร่วมกับพื้นที่ศักยภาพเหมาะสมภายในขอบเขตการให้บริการของปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งในระดับศักยภาพเหมาะสมมากที่สุด ทำให้สามารถเสนอแนะทำเลพื้นที่ศักยภาพเหมาะสมในการเข้าถึงบริการของปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งของเมือง ในการพัฒนาโครงการอาคารชุดในระดับต่างๆ ได้ โดยภาพรวมบริเวณศักยภาพเหมาะสมสำหรับระดับราคาสูง 3 อันดับแรก คือ Super Luxury, Luxury และ high Class นั้นกระจุกตัวอยู่ย่านธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตคลองสานตามแนวรถไฟฟ้าสายสีทอง มีพื้นที่ศักยภาพเหมาะสมรวม 1.49644 ตารางกิโลเมตร และโครงการอาคารชุดระดับ Main Class เป็นระดับราคาขายที่มีสัดส่วนมากที่สุดในพื้นที่ศึกษา มีพื้นที่ 15.41064 ตารางกิโลเมตร ควรพัฒนาในบริเวณต่อเนื่องของรถไฟฟ้าสายสีลมในเขตธนบุรี กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในสถานีบางขุนนท์ สถานีจรัญสนิทวงศ์13 และสถานีท่าพระ
จากผลการศึกษานำมาสู่ข้อเสนอแนะต่อผู้พัฒนาโครงการอาคารชุดว่าควรคำนึงถึงปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งทั้ง 8 ปัจจัยข้างต้นเนื่องจากส่งอิทธิพลทั้งเชิงบวก และเชิงลบต่อราคาขายอาคารชุดพักอาศัย และควรใช้แผนที่ทำเลศักยภาพเหมาะสมยังเป็นแนวทางในการตัดสินใจพัฒนาโครงการอาคารชุดในพื้นที่ให้มีความเหมาะสมกับระดับราคาต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงการบริการของปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งในระดับสูงที่สุด เพื่อให้โครงการที่เกิดขึ้นมีคุณภาพในการเป็นที่อยู่อาศัยที่ดีของเมือง อีกทั้งในด้านวิชาการ เสนอแนะให้นำการประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์มาช่วยในการศึกษาด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยมาแสดงผลให้เป็นรูปธรรม เพื่อช่วยให้ผู้พัฒนาเมืองสามารถเข้าใจถึงอิทธิพลของปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งต่อราคา และการพัฒนาที่อยู่อาศัย แสดงให้เห็นขอบเขตการให้บริการของสาธารณูปโภค สาธารณูปการ และสิ่งอำนวยความสะดวกของเมืองในบริบทของพื้นที่ศึกษา เพื่อวางแผนพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป