Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.) เพื่อศึกษาการปรับตัวและทักษะที่จำเป็นของข้าราชการบรรจุใหม่ ในสถานการณ์โควิด-19 2.) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการปรับตัวและทักษะที่จำเป็นของข้าราชการบรรจุใหม่ ในสถานการณ์โควิด-19 3.) เพื่อศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะในการปรับตัวและทักษะที่จำเป็นของข้าราชการบรรจุใหม่ ในสถานการณ์โควิด-19 โดยใช้รูปแบบการวิจัยทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative research) โดยการเก็บข้อมูลจากแบบสอบถามจากข้าราชการบรรจุใหม่ ตำแหน่งนักวิชาการศุลกากรปฏิบัติการ ที่เข้ารับราชการตั้งแต่ ปี 2562 และปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่คลองเตย กรุงเทพฯ จำนวน 170 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า T-Test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) โดยใช้โปรแกรม SPSS และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research) โดยการสัมภาษณ์ข้อมูลเชิงลึก (In-depth interview) จากกลุ่มประชากรข้าราชการบรรจุใหม่จำนวน 6 คนและผู้บังคับบัญชาจำนวน 3 คน เพื่อให้ได้ข้อมูลครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ผลการศึกษาพบว่า (1) ปัจจัยส่วนบุคคลด้านระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ด้านความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานแตกต่างกัน มีผลต่อการปรับตัวของข้าราชการบรรจุใหม่ในสถานการณ์โควิด-19 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนข้าราชการบรรจุใหม่ที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษาต่างกัน มีผลต่อการปรับตัวของข้าราชการบรรจุใหม่ในสถานการณ์โควิด-19 ไม่แตกต่างกัน (2) ปัจจัยส่วนบุคคลด้านอายุ ความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานแตกต่างกัน มีผลต่อการทักษะที่จำเป็นของข้าราชการบรรจุใหม่ในสถานการณ์โควิด-19 แตกต่างกัน ส่วนปัจจัยบุคคลอื่น ได้แก่ เพศ ระดับการศึกษา ระยะเวลาในการปฏิบัติงานแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อทักษะที่จำเป็นของข้าราชการบรรจุใหม่ในสถานการณ์โควิด-19 ไม่แตกต่างกัน (3) ปัจจัยสภาพแวดล้อมได้แก่ ลักษณะงานที่ปฏิบัติ อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการปฏิบัติงาน และความสัมพันธ์กับบุคคลในที่ทำงานแตกต่างกัน มีผลต่อการปรับตัวของข้าราชการบรรจุใหม่ในสถานการณ์โควิด-19 แตกต่างกัน (4) ปัจจัยสภาพแวดล้อมได้แก่ อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการปฏิบัติงานและความสัมพันธ์กับบุคคลในที่ทำงานแตกต่างกัน มีผลต่อทักษะที่จำเป็นของข้าราชการบรรจุใหม่ในสถานการณ์โควิด-19 แตกต่างกัน ส่วนปัจจัยสภาพแวดล้อมด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติแตกต่างกัน มีผลต่อทักษะที่จำเป็นของข้าราชการบรรจุใหม่ในสถานการณ์โควิด-19 ไม่แตกต่างกัน