Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพในการดำเนินงานของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศภายหลังการยกฐานะเป็นองค์การมหาชนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ (2) เพื่อนำผลในด้านมิติต่าง ๆ ที่ได้จากการศึกษาไปเสนอแนะแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในแต่ละมิติของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ โดยอ้างอิงจากทฤษฎีแนวคิดเกี่ยวกับองค์การมหาชนในประเทศไทย แนวคิดเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการดำเนินงาน แนวคิดเกี่ยวกับการวัดผลการปฏิบัติงานแบบดุลยภาพ (Balanced Scorecard: BSC) แนวคิดเกี่ยวกับแรงจูงใจในการทำงานและสถานการณ์ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
การวิจัยนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ใช้การสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth Interview) โดยมีกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 10 คน คือ กลุ่มตัวอย่างภายในสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศจำนวน 7 คน ซึ่งเป็นเป็นผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการฝ่ายส่วนงานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และกลุ่มตัวอย่างภายนอกสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศจำนวน 3 คน ซึ่งเป็นผู้แทนจากสำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานภาคเอกชนและการสังเกตการณ์ (Observation) จากการบริหารงานภายในองค์การ
ผลการศึกษาพบว่า การดำเนินงานของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานมิติด้านประสิทธิผล มิติด้านคุณภาพการให้บริการ มิติด้านดูแลกิจการและพัฒนาองค์การและมิติด้านการปฏิบัติงานเกี่ยวกับด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศมีเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากมีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินงานรองรับเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นพระราชบัญญัติเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พ.ศ. 2562
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานในมิติต่าง ๆ ที่มีเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พ.ศ. 2562 แต่เนื่องจากยังเป็นกฎหมายที่บังคับใช้ได้ไม่นานยังคงต้องใช้เวลาดำเนินการพัฒนาปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ. ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานภายในเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานนำไปสู่การเป็นหน่วยงานที่มีขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ต่อไป