Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะศึกษาและวิเคราะห์ว่า จะสามารถนำกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดรักษาผู้ป่วยมาใช้แก้ไขหรือป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตายเพราะป่วยทางจิต ได้เพียงใดหรือไม่ และการเสนอร่างพระราชบัญญัติการฟื้นฟูสุขภาพจิต (ด้านการบังคับรักษา) เพื่อแก้ไขหรือป้องกันปัญหาดังกล่าวจะสมประโยชน์แก่ผู้ป่วยทางจิตที่มีความเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตายหรือไม่ จากการศึกษาพบว่า ประการแรก การฆ่าตัวตายเพราะป่วยทางจิตสามารถป้องกันได้โดยใช้เครื่องมือทางกฎหมายที่เอื้ออำนวยต่อการค้นหาและนำผู้ป่วยทางจิตมาบำบัดรักษา การวิจัยเปรียบเทียบกฎหมายสุขภาพจิตของ มลรัฐนิวยอร์ก อังกฤษและญี่ปุ่นทำให้พบวิธีการทางกฎหมายที่ทำให้ผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลือเร็วขึ้นเพื่อลดโอกาสหรือความเสี่ยงที่ผู้ป่วยอาจฆ่าตัวตาย และ ประการที่สอง จากการศึกษายังพบอีกว่ามีประเด็นทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายสุขภาพจิตที่จำกัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ป่วยอยู่ด้วย ได้แก่ สิทธิส่วนบุคคลที่จะปฏิเสธการรักษาที่โต้แย้งกับผลประโยชน์สาธารณะที่รัฐได้รับจากการรักษาชีวิตผู้ป่วยทางจิตที่มีความเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตาย และแนวคิด Parens Patriae ที่ให้รัฐในฐานะผู้ปกครองมีอำนาจนำบุคคลที่มีความผิดปกติทางจิตที่มีพฤติกรรมที่น่าจะเป็นอันตรายต่อตนเองไปรักษาเพื่อประโยชน์แก่บุคคลนั้น ส่วนเครื่องมือที่เป็นกฎหมายของประเทศไทยในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยจิตเวชคดีและไม่ครอบคลุมเพียงพอ ขาดความชัดเจน ไม่สอดคล้องกับการนำผู้ป่วยมารักษาเพื่อแก้ไขหรือป้องกันการฆ่าตัวตายโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามก็ได้มีความพยายามเสนอร่างพระราชบัญญัติการฟื้นฟูสุขภาพจิตด้านการบังคับรักษาที่ยึดถือตามแนวทางของต่างประเทศ หากแต่ผลการวิจัยพบว่า โครงสร้างของกฎหมายฉบับนี้ยังไม่สมประโยชน์กับผู้ป่วยทางจิตที่มีความเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตายอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ที่ผู้ป่วยทางจิตที่มีความเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตายจะได้รับจากการรักษาตามร่างพระราชบัญญัติการฟื้นฟูสุขภาพจิต วิทยานิพนธ์ฉบับนี้เสนอแนะให้ มีการปรับปรุง แก้ไขและเพิ่มเติมข้อกฎหมายโดยนำหลักเกณฑ์ การกำหนดประเภท หรือลักษณะผู้ป่วยที่มีความจําเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูสุขภาพจิตกรณีฉุกเฉิน การดูแลผู้ป่วยเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพจิตในชุมชนหลังการรักษาในศูนย์ฟื้นฟูฯ การจำกัดขอบเขตการใช้ดุลพินิจของแพทย์ในการรักษาผู้ป่วย การกำหนดองค์กรที่มีความเป็นกลางในการทบทวนความจำเป็นในการรักษาผู้ป่วย การกำหนด ความรับผิดของแพทย์กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทำให้ผู้ป่วยได้รับการปล่อยตัวไป ความรับผิดของผู้ที่ดูแลผู้ป่วยตามความเป็นจริง กรณีไม่ใช้ความระมัดระวังในการดูแลผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมการฆ่าตัวตายมาแล้ว และความรับผิดของผู้ที่รับผิดชอบ กรณีทอดทิ้งผู้ป่วยไปจากการดูแลในชุมชน ซึ่งการนำหลักเกณฑ์ดังกล่าวมาบัญญัติไว้ในกฎหมายจะทำให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่