Abstract:
งานวิจัยนี้ศึกษากระบวนการจัดการโลจิสติกส์เพื่อมนุษยธรรมที่หน่วยงานผู้บริจาคดำเนินการเพื่อบริจาคหน้ากากอนามัยให้แก่สภากาชาดไทยที่มีความล่าช้า ใช้เวลาตลอดทั้งกระบวนการถึง 29 วันในปัจจุบัน โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ปฏิบัติงานจริง ออกแบบเป็นแผนผังสถานะปัจจุบัน วิเคราะห์ด้วยทฤษฎีแผนผังสายธารคุณค่า (VSM) เพื่อจำแนกคุณค่าของกิจกรรมและระบุความสูญเปล่า จากนั้นวิเคราะห์หาสายงานวิกฤต (Critical Path) ด้วยเทคนิคระเบียบวิธีวิกฤต (CPM) เพื่อแก้ไขให้มีขนาดสั้นที่สุด จัดลำดับกิจกรรม จนได้กระบวนการจัดการโลจิสติกส์แบบใหม่ออกมาในรูปแบบไดอะแกรม เพื่อใช้เป็นแนวทางในอนาคต ผลที่ได้จากการวิเคราะห์ด้วย VSM โดยการกำจัดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น การรวบหลายๆ กิจกรรมเข้าด้วยกันเพื่อลดขั้นตอนและลดระยะเวลาในการดำเนินงาน และวิเคราะห์โครงข่ายงานหาสายงานวิกฤตและปรับปรุงให้มีขนาดสั้นที่สุด พบว่ากระบวนการจัดการโลจิสติกส์แบบใหม่สามารถลดกิจกรรมจาก 24 กิจกรรม เหลือ 14 กิจกรรม คิดเป็นร้อยละ 41.6 ลดระยะเวลาในการดำเนินการ จาก 29 วันทำการ เหลือ 10 วันทำการ คิดเป็นร้อยละ 65.5 กระบวนการจัดการโลจิสติกส์แบบใหม่นี้จะช่วยให้หน้ากากอนามัยถึงมือผู้ประสบภัยได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย สอดคล้องกับการจัดการโลจิสติกส์เพื่อมนุษยธรรมในสถานการณ์ภัยพิบัติ