Abstract:
วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบการตอบสนองของทีเซลล์และหากลไกที่เชื้อไวรัสเอชไอวีใช้ในการหลบหลีกจากภูมิคุ้มกัน วิธีดำเนินการทดลอง: รวบรวมอาสาสมัครที่ติดเชื้อเอชไอวี ที่มีระดับซีดีสี่มากกว่า 450 cells/µL จากคลินิกนิรนาม สภากาชาดไทย โดยแบ่งอาสาสมัครเป็น 2 กลุ่ม ตามปริมาณไวรัสในกระแสเลือด (VL) เป็น viraemic controllers (VC) (VL<2,000 cp/mL) และ non-controllers (NC) (VL>2,000 cp/mL) จากนั้นเก็บเลือดเพื่อนำมาทดสอบการตอบสนองต่อโปรตีนของเชื้อเอชไอวีส่วน Gag p24 ด้วยวิธี IFNy ELISpot assay และทำการหาลำดับสารพันธุกรรมเพื่อใช้ในการวิเคราะห์กลไกที่ใช้ในการหลบหลีกจากภูมิคุ้มกัน ผลการทดลอง: VC มีจำนวน 23 คน และ NC มีจำนวน 41 คน โดยที่ปัจจัยต่างๆ ได้แก่ อายุ เพศ รสนิยมทางเพศ การมี protective alleles (HLA-B27, -B57, -B58) นั้นไม่แตกต่างกัน จากการทดสอบการตอบสนองต่อโปรตีน Gag p24 ด้วยวิธี IFNy ELISpot assay โดยกระตุ้นด้วยเอพิโทปที่จำเพาะต่อชนิดของเอชแอลเอของอาสาสมัคร พบว่ามีอาสาสมัครจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถตอบสนองต่อเอพิโทปดังกล่าวได้ (Non-responder) กล่าวคือ อาสาสมัครที่มี HLA-B27 ที่ไม่ตอบสนองต่อ KK10 นั้น มีสาเหตุจากการมี HLA polymorphism เป็น HLA-B2706 แทนที่จะเป็น HLA-B2704 หรือ HLA-B2705 อาสาสมัครที่มี HLA-B57 เมื่อทดสอบด้วย TW10 นั้น พบว่าผู้ที่ไม่ตอบสนองมี mutation ที่ตำแหน่ง T242N และเมื่อทดสอบด้วย QW9 พบว่าผู้ที่ไม่ตอบสนอง มี mutation ที่ตำแหน่ง T3S ในขณะที่อาสาสมัครที่มี HLA-A11 เมื่อทดสอบด้วย AK11 นั้นไม่พบการกลายพันธุ์ในระดับโปรตีน แต่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในระดับนิวคลีโอไทด์ (codon usage) ที่ตำแหน่ง anchor residue ซึ่งตรงกับกรดอะมิโนไลซีน กล่าวคือ ผู้ที่มีการตอบสนองต่อ AK11 มักใช้ codon AAG ในขณะที่ผู้ที่ไม่ตอบสนองมักใช้ AAA ในการแปลรหัสเป็นกรดอะมิโนไลซีน โดยสรุปจากศึกษาในครั้งนี้สามารถนำความรู้ที่ได้เกี่ยวกับกระบวนที่ไวรัสใช้ในการหลบหลีกจากภูมิคุ้มกันไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาวัคซีนต่อไปในอนาคต