Abstract:
พนักงานซ่อมบำรุงในโรงงานหลอมตะกั่วจากแบตเตอรี่ที่ผ่านการใช้งานแล้วมีความเสี่ยงอันตรายต่อการได้รับพิษจากตะกั่วในบริเวณพื้นที่ปฏิบัติงาน งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงการทำงานของพนักงานซ่อมบำรุงเพื่อลดการสัมผัสสารตะกั่วในโรงงานหลอมตะกั่วจากแบตเตอรี่ที่ผ่านการใช้งานแล้ว การดำเนินการวิจัยเริ่มจาก 1) การตรวจวัดสภาพแวดล้อมของการปฏิบัติงาน การสังเกตลักษณะการทำงาน การสังเกตพฤติกรรมการทำงานและช่องทางการสัมผัสสารตะกั่ว 2) การประเมินความเสี่ยงอันตรายโด้ใช้ FMEA เป็นแนวทางในการวิเคราะห์หาสาเหตุ ระดับความเสี่ยง และการป้องกัน ผลการศึกษาพบว่า ช่องทางการสัมผัสเข้าสู่ร่างกายได้แก่ 1) ระบบทางเดินหายใจโดยการสูดดมไอควัน ฝุ่น ไอสารตะกั่ว 2) การสัมผัสทางผิวหนังจากของเหลวที่ปนเปื้อนสารตะกั่ว และ 3) ระบบทางเดินอาหารจากมือและร่างกายที่เปื้อนสารตะกั่ว ปัจจัยที่ส่งผลต่อการสัมผัสสารตะกั่ว เรียงลำดับตามโอกาสในการสัมผัสดังนี้ 1) การฟุ้งกระจายของฝุ่นตะกั่ว 2) แหล่งความร้อนที่ทำให้เกิดไอของตะกั่ว 3) พื้นที่เปียกแฉะจากของเหลวที่ปนเปื้อนสารตะกั่ว 4) พฤติกรรมในการทำงาน 5) ระยะเวลาปฏิบัติงาน และ 6) การพักรับประทานอาหาร ส่วนการปรับปรุงการทำงาน ได้แก่ 1) การติดตั้งอุปกรณ์เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นตะกั่ว 2) การทำฉากกันความร้อนจากไอตะกั่ว 3) การใช้อุปกรณ์เสริมเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานของพนักงานซ่อมบำรุง 4) การลดเวลาการทำงานสัมผัสกับความร้อน และ5) การสวมใส่ชุดป้องกัน นอกจากนี้ยังต้องมีมาตรการการเฝ้าระวังสิ่งที่คุกคาม และมาตรการเฝ้าระวังด้านสุขภาพ หลังการดำเนินการปรับปรุงการทำงานเป็นระยะเวลาสิบเดือนพบว่า สามารถลดโอกาสในการสัมผัสสารตะกั่วได้ชัดเจนในขั้นตอนการหลอมซึงลดลงจาก 12 คะแนน เหลือ 4 คะแนน เป็นค่าที่ยอมรับได้ และปริมาณตะกั่วในเลือดของพนักงานซ่อมบำรุงมีค่าลดลงจาก 461.70 µg/L (46.17 µg/dL) เหลือ 157.40 µg/L (15.74 µg/dL) ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติ