Abstract:
วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผลของขนาดยากลุ่มยาปิดกั้นตัวรับชนิดเบต้า ได้แก่ ไบโซโปรลอล และคาร์วีไดลอล ในขนาดยาสูง (ร้อยละ 50 ถึง 100 ของขนาดยาเป้าหมาย) กลาง (ร้อยละ 25 ถึง 50 ของขนาดยาเป้าหมาย) และต่ำ (น้อยกว่าร้อยละ 25 ของขนาดยาเป้าหมาย) ต่อผลลัพธ์การเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ ผลลัพธ์รวมของการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุและการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากทุกสาเหตุและผลลัพธ์ในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรังในระยะเวลา 1 ปี
วิธีการดำเนินการ: การศึกษาวิจัยเชิงวิเคราะห์จากเหตุไปหาผลแบบย้อนหลัง โดยเก็บข้อมูลย้อนหลังจากเวชระเบียน ในผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง (ICD10: I500) ที่เข้ารับการรักษาในแผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556 ถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561 และได้รับยาปิดกั้นตัวรับชนิดเบต้า ในขนาดคงที่ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 สัปดาห์ติดตามผลผู้ป่วยเป็นระยะเวลา 1 ปี
ผลการวิจัย: จากผู้ป่วยที่ผ่านเกณฑ์ 542 ราย มีเพียงร้อยละ 3.3 ที่ได้รับยาปิดกั้นเบต้าในขนาดยาเป้าหมาย ส่วนใหญ่ได้รับยาปิดกั้นตัวรับชนิดเบต้าในขนาดต่ำ (286 รายหรือร้อยละ 52.7) พบว่ากลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่มปิดกั้นตัวรับชนิดเบต้าในขนาดสูง (87 รายหรือร้อยละ 16.1) เกิดผลลัพธ์รวมการเสียชีวิตและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากทุกสาเหตุในระยะเวลา 1 ปี น้อยกว่ากลุ่มขนาดยาต่ำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (HR=0.63, 95%CI 0.41–0.95, p=0.03) กลุ่มขนาดยาสูงมีแนวโน้มเกิดผลลัพธ์การเสียชีวิตจากทุกสาเหตุและผลลัพธ์การเข้ารับการรักษาจากโรคหัวใจและหลอดเลือดน้อยกว่ากลุ่มขนาดยาต่ำเช่นเดียวกัน แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
สรุป: ผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรังที่ได้รับยากลุ่มยาปิดกั้นเบต้าในขนาดยาสูงเกิดผลลัพธ์รวมการเสียชีวิตและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากทุกสาเหตุต่ำกว่าที่ได้รับยาในขนาดยาต่ำ ดังนั้นยากลุ่มปิดกั้นเบต้าควรได้รับการปรับขนาดยาเพิ่มขึ้นจนถึงขนาดยาเป้าหมายหรือขนาดยาสูงสุดที่สามารถทนได้หากไม่มีข้อห้ามใช้ เพื่อประสิทธิผลสูงสุดจากยา