Abstract:
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลส่งผ่านของกลยุทธ์การจัดการอัตลักษณ์ทางเพศในที่ทำงานต่อความสัมพันธ์ระหว่างการเลือกปฏิบัติต่างเพศในที่ทำงานกับความพึงพอใจในการทำงาน โดยการเก็บข้อมูลจากพนักงาน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มชายรักชาย (gay), พนักงานกลุ่มหญิงรักหญิง (lesbian) และพนักงานกลุ่มรักสองเพศ (bisexual) จำนวน 200 คน ผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามสมมติฐาน พบว่า การเลือกปฏิบัติต่างเพศในที่ทำงานมีความสัมพันธ์ทางลบต่อความพึงพอใจในการทำงาน (b = -.31, p < .01) และพบว่ากลยุทธ์การปกปิดและกลยุทธ์การเปิดเผยอย่างไม่ได้ตั้งใจมีอิทธิพลส่งผ่านระหว่างการเลือกปฏิบัติต่างเพศ ในที่ทำงานและความพึงพอใจในการทำงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติแบบบางส่วน (partial meditation) (bCO = -.08, p < .01) (bIO = -.05, p < .01) หมายความว่า ทั้งกลยุทธ์การปกปิดและกลยุทธ์การเปิดเผยอย่างไม่ได้ตั้งใจไม่สามารถ ทำให้อิทธิพลระหว่างการเลือกปฏิบัติต่างเพศในที่ทำงานและความพึงพอใจในการทำงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนกลยุทธ์การข้ามผ่านและกลยุทธ์การเปิดเผยอย่างไม่ได้ตั้งใจไม่มีอิทธิพลส่งผ่านระหว่างการเลือกปฏิบัติต่างเพศในที่ทำงานและความพึงพอใจในการทำงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (bPA = -.02, p = .75) (bEO = -.03, p = .70) จากผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเลือกปฏิบัติต่างเพศในที่ทำงานมีอิทธิต่อความพึงพอใจในการทำงานเป็นอย่างมากและกลยุทธ์การจัดการอัตลักษณ์ทางเพศในที่ทำงานไม่สามารถมีอิทธิพลส่งผ่านอย่างสมบูรณ์ (fully mediation)ได้ ดังนั้นองค์การควรสนับสนุนให้เกิดการยอมรับและลดการเลือกปฏิบัติต่างเพศในที่ทำงานด้วยการกำหนดนโยบายและมีการปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อเสริมสร้างความรู้สึกปลอดภัยกับพนักงานที่มีอัตลักษณ์หลากหลายทางเพศในที่ทำงาน