DSpace Repository

Persistence of height fluctuation in molecular-beam epitaxy model

Show simple item record

dc.contributor.advisor Rangsima Chanphana
dc.contributor.advisor Patcha Chatraphorn
dc.contributor.author Pipitton Sanseeha
dc.contributor.other Chulalongkorn University. Faculty of Sciences
dc.date.accessioned 2023-02-03T04:13:04Z
dc.date.available 2023-02-03T04:13:04Z
dc.date.issued 2022
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/81643
dc.description Thesis (M.Sc.)--Chulalongkorn University, 2022
dc.description.abstract Persistence probability is an interesting quantity in stochastic process which is the dynamics of surface growth in this study. Persistence probability of height f luctuation is the probability that the height fluctuation does not return to its initial value throughout a time interval. In this work, we use a numerical simulation approach to investigate the persistence probability in Molecular-Beam Epitaxy (MBE) model which is associated with Molecular-Beam Epitaxy technique. First half, we study the effects of temperature and deposition rate on the growth exponent () and persistence exponent (). For the temperature corresponds to 1 diffusion length, we get 017 and positive steady-state persistence exponent, S+ 078. When the temperature increases, the growth exponent value decreases while the persistence exponent rises. The same results happen when the deposition rate is decreased. On the second half, we investigate how the persistence probabilities change with a particular initial value of height fluctuation. The negative persistence probability of positive initial height shows power lawwhentheinitial height is slightly greater than sat. The positive persistence probability of negative initial height does not show power law decay unless the initial height is much greater than sat. We measure the relationship of persistence probability on initial height fluctuation (0), system size, and discreate sampling time to investigate the scaling relation. The persistence probability is a function of three parameters.
dc.description.abstractalternative ความน่าจะเป็นของการคงอยู่เป็นปริมาณที่น่าสนใจในกระบวนการสโตแคสติกซึ่งเป็น พลวัตในงานประเภทปลูกผิวของเรา ความน่าจะเป็นของการคงอยู่ของความผันผวนของ ความสูงคือความน่าจะเป็นที่ค่าความผันผวนของความสูงไม่กลับสู่ค่าเริ่มต้นตลอดช่วงเวลา หนึ่ง ในการศึกษาครั้งนี้ เราทำการศึกษาความน่าจะเป็นของการคงอยู่ของแบบจำลองโม เลกุลาร์บีมเอพิแทกซี (MBE model) ซึ่งเป็นแบบจำลองการปลูกฟิล์มแบบโมเลกุลาร์บีม เอพิแทกซีด้วยวิธีทางตัวเลข ในครึ่งแรก เราศึกษาผลของอัตราการปลูกฟิล์มและอุณหภูมิต่อ เลขชี้กำลังการเติบโต () และเลขชี้กำลังการคงอยู่ () สำหรับอุณหภูมิที่ทำให้อะตอมที่ผิวหน้ามีระยะทางการแพร่เท่ากับ 1 หน่วย เราได้เลขชี้กำลังของการเติบโตประมาณ 0.17 และ เลขชี้กำลังการคงอยู่ประมาณ 0.78 เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นเลขชี้กำลังการเติบโตจะลดลงในขณะ ที่เลขชี้กำลังการคงอยู่เพิ่มขึ้น ผลที่ได้นี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกันเมื่อเราลดอัตราการปลูกฟิล์ม ใน ส่วนที่สอง เราศึกษาความน่าจะเป็นของการคงอยู่ที่เปลี่ยนไปเมื่อเราทำการพิจารณาค่าความ ผันผวนของความสูงเริ่มต้นเฉพาะค่า ความน่าจะเป็นของการคงอยู่ด้านลบของความผันผวน ของความสูงค่าบวกลดลงตามเวลาแบบกฎการยกกำลังก็ต่อเมื่อพิจารณาค่าของความผันผวน ของความสูงเริ่มต้นที่มากกว่าค่าความกว้างของอินเตอร์เฟซอิ่มตัว ความน่าจะเป็นของการ คงอยู่ด้านบวกของความผันผวนของความสูงค่าลบไม่ลดลงตามเวลาแบบกฎการยกกำลัง จน กระทั่งเมื่อพิจารณาค่าของความผันผวนของความสูงเริ่มต้นที่มากกว่าค่าความกว้างของอินเตอร์เฟซอิ่มตัวมากๆ เราวัดความน่าจะเป็นของการคงอยู่สำหรับค่าความผันผวนของความสูง เริ่มต้น,ขนาดของระบบ, และช่วงเวลาตัวอย่างเพื่อหาความสัมพันธ์ของมาตราส่วน ความน่า จะเป็นของการคงอยู่เป็นฟ้งก์ชัน 3 พารามิเตอร
dc.language.iso en
dc.publisher Chulalongkorn University
dc.relation.uri http://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2022.307
dc.rights Chulalongkorn University
dc.subject.classification Physics and Astronomy
dc.title Persistence of height fluctuation in molecular-beam epitaxy model
dc.title.alternative การคงอยู่ของความผันผวนของความสูงในแบบจำลองโมเลกุลาร์บีมเอพิแทกซี
dc.type Thesis
dc.degree.name Master of Science
dc.degree.level Master's Degree
dc.degree.discipline Physics
dc.degree.grantor Chulalongkorn University
dc.identifier.DOI 10.58837/CHULA.THE.2022.307


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record