dc.contributor.author |
จริยา บุญหงษ์ |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะแพทยศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2008-09-30T09:50:20Z |
|
dc.date.available |
2008-09-30T09:50:20Z |
|
dc.date.issued |
2545 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/8194 |
|
dc.description |
โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน |
en |
dc.description.abstract |
วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการสอนแบบบรรยายกับการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ว่าแบบใดจะสามรถทำให้นิสิตเกิดการเรียนรู้และมีความพึงพอใจต่อการสอนมากกว่ากัน วิธีการในชั่วโมงเรียนของไฟฟ้าวินิจฉัย แบ่งนิสิตแพทย์ออกเป็น 2 กลุ่ม โดยสอนสลับกันไปแต่ละกลุ่มย่อยจนครบกลุ่มละ 30 คน กลุ่มที่ 1 ได้รับการสอนโดยวิธีบรรยาย ส่วนกลุ่มที่ 2 ได้รับการสอนโดยใช้กรณีศึกษาแล้วให้นิสิตอภิปรายกัน ในกลุ่มเกี่ยวกับอาการผู้ป่วย การวินิจฉัยโรค การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการรวมถึงการส่งตรวจไฟฟ้าวินิจฉัย โดยมีผู้สอนเป็นผู้คอยให้คำแนะนำพร้อมสรุปในตอนท้าย วิธีการวัดผล หลังจากจบการสอนทั้ง 2 แบบ นิสิตจะได้รับการทดสอบความรู้ด้วยแบบทดสอบชนิดปรนัยจำนวน 10 ข้อ และให้นิสิตประเมินความพึงพอใจเกี่ยวกับการเรียนการสอน โดยให้คะแนนเต็ม 10 คะแนน ผลของการวิจัย การสอนทั้ง 2 แบบมีนิสิตกลุ่มละ 30 คน กลุ่มที่ได้รับการสอนแบบบรรยาย มีคะแนนทดสอบเฉลี่ย 8.17 (DS = 0.84) และคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ย 8.57 (SD= 0.97) กลุ่มที่ได้รับการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้น มีคะแนนทดสอบเฉลี่ย 8.47 (SD = 1.01) และคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ย 8.98 (SD = 0.93) โดยคะแนนทั้ง 2 กลุ่ม ทั้งคะแนนทดสอบและคะแนนความ พึงพอใจ ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) สรุป ผลการศึกษาพบว่า ไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มที่ได้รับการสอนแบบบรรยายกับกลุ่มที่ได้รับการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้น ทั้งความรู้ที่นิสิตได้รับและความพึงพอใจต่อวิธีการสอน |
en |
dc.description.abstractalternative |
Objective: To compare the knowledge gain and satisfaction of learning between the lecture based and problem based learning program. Design Experimental study. Setting: Department of Rehabilitation Medicine, Faculty of Medicine, Chulalongkorn University. Subject and Methods: Sixty medical students that attended the electrodiagnostic subject at department of rehabilitation medicine. The students are randomized sampling into two groups, one received the lecture based program and the other received the problem based program. Measurement: The two groups of the students are tested by en topics multiple choices examination. Ten points score of satisfaction of learning is evaluated by the students. Result: There are thirty students in each group. The average testing and satisfaction scores of lecture based group are 8.17 +- 0.84 and 8.57 +- 0,97. The scores of the problem based group are 8.47 +- 1.01 and 8.98 +- 0.93. There are no significant differences of scores in both groups. Conclusion: There are no differences of knowledge gain and satisfaction of learning between the lecture based and problem based learning program. |
en |
dc.description.sponsorship |
ทุนวิจัยกองทุนรัชดาภิเษกสมโภช |
en |
dc.format.extent |
1008119 bytes |
|
dc.format.mimetype |
application/pdf |
|
dc.language.iso |
th |
es |
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en |
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en |
dc.subject |
การเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นฐาน |
en |
dc.subject |
การสอน |
en |
dc.title |
การเปรียบเทียบการเรียนการสอนแบบบรรยายกับการใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้นการเรียนรู้ : รายงานผลการวิจัย |
en |
dc.title.alternative |
Comparison of the effectiveness of lecture and problem based learning program |
en |
dc.type |
Technical Report |
es |
dc.email.author |
Jariya.Bo@Chula.ac.th |
|