Abstract:
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของระดับความอิ่มตัวทรานส์เฟอร์ริน (transferrin saturation, TSAT) กับดัชนีการดื้อยาอีริโทรโพอิติน (erythropoietin resistive index, ERI) ในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง (chronic kidney disease, CKD) ระยะที่ 4-5 วิธีการ: การศึกษาเชิงวิเคราะห์ศึกษาจากเหตุไปหาผลแบบย้อนหลัง (retrospective cohort analytical study) เก็บข้อมูลย้อนหลังของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะที่ 4-5 ที่มารับการตรวจรักษา ณ โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ที่มีการตรวจวัด TSAT ครั้งล่าสุดในช่วงเวลาระหว่างเดือนมกราคม พ.ศ.2560 ถึง ธันวาคม พ.ศ.2562 การศึกษาใช้ค่ามัธยฐานของระดับ TSAT (median TSAT) แบ่งผู้ป่วยออกเป็น 2 กลุ่ม แล้วเปรียบเทียบค่า ERI ระหว่างกลุ่ม ผลการวิจัย: ผู้ป่วยที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือกเข้าร่วมการศึกษา 218 คน เป็นผู้หญิงร้อยละ 53.7 อายุ 60.0 [IQR 50.8, 68.0] ปี เป็นผู้ป่วย CKD ในระยะที่ 4 และ 5 คิดเป็นร้อยละ 1.8 และ 98.2 ตามลำดับ มีค่ามัธยฐานของระดับฮีโมโกลบิน (Hb) 10.40 [IQR 9.60, 11.43] g/dl ค่าประมาณอัตราการกรองของไต (eGFR) 4.87 [IQR 3.61, 7.35] ml/min/1.73m2, median TSAT ร้อยละ 29.00 [IQR 21.81, 38.44] และ median ERI 12.11 [IQR 7.56, 16.21] IU/kg/week per g/dl การศึกษาแบ่งผู้ป่วยเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มี TSAT สูงกว่าค่ามัธยฐาน (>median TSAT group) 104 คน และกลุ่มที่มี TSAT ต่ำกว่าหรือเท่ากับค่ามัธยฐาน (≤median TSAT group) 114 คน ขนาดยา EPO ของผู้ป่วยในกลุ่ม >median TSAT group และ ≤median TSAT group เท่ากับ 8,000 [IQR 4,000, 8,000] IU/week และ 8,000 [IQR 7,000, 8,000] IU/week ตามลำดับ (P= 0.003) และพบว่า ผู้ป่วยในกลุ่ม >median TSAT group มี ERI ต่ำกว่ากลุ่ม ≤median TSAT group (11.54 [IQR 6.68, 14.98] IU/kg/week per g/dl และ 12.84 [IQR 8.00, 16.55] IU/kg/week per g/dl ตามลำดับ) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P= 0.042) สรุป: ระดับของ TSAT มีความสัมพันธ์กับค่า ERI ในผู้ป่วย CKD ระยะที่ 4-5 โดยพบว่า ผู้ป่วยกลุ่มที่มีระดับ TSAT สูงกว่าค่ามัธยฐานมี ERI ที่ต่ำกว่ากลุ่มที่มีระดับ TSAT ต่ำกว่าหรือเท่ากับค่ามัธยฐานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ