Abstract:
วัตถุประสงค์ : เพื่อทบทวนวรรณกรรมและประเมินผลของการเสริมกรดไขมันโอเมก้า 3 ต่อการป้องกันและควบคุมอาการของโรคจิตเภท
วัสดุและวิธีการ : สืบค้นบทความต้นฉบับประเภทการวิจัยทางคลินิกแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม แบบปกปิดสองทาง ที่ถูกตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษในฐานข้อมูล PubMed และ Embase โดยใช้คำสำคัญในการสืบค้นคือ omega-3 fatty acid, ultra-high risk for psychosis, first-episode schizophrenia, chronic schizophrenia จากนั้นสังเคราะห์และอภิปรายข้อมูลจากงานวิจัยฉบับเต็ม
ผล : มีการศึกษาทั้งหมด 131 เรื่อง ตัดบทความซ้ำซ้อนและสังเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษาที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเรื่องที่ศึกษาได้ 15 เรื่อง เป็นการศึกษาในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงมากต่อการเกิดอาการทางจิต 8 เรื่อง การศึกษาในผู้ป่วยโรคจิตเภทครั้งแรก 4 เรื่อง และการศึกษาในผู้ป่วยโรคจิตเภทเรื้อรัง 3 เรื่อง พบว่าการเสริมกรดไขมันโอเมก้า 3 ขนาด 1.2 กรัมต่อวันในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงมากต่อการเกิดอาการทางจิต มีอัตราการเกิดอาการทางจิตน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (ร้อยละ 4.9 และร้อยละ 27.5 ตามลำดับ, p-value 0.007) การเสริมกรดไขมันโอเมก้า 3 ขนาด 1.14 - 2.2 กรัมต่อวัน ร่วมกับการใช้ยารักษาโรคจิตสามารถลดความรุนแรงของอาการทางจิตของผู้ป่วยโรคจิตเภทครั้งแรก แต่ไม่สามารถป้องกันอาการกำเริบได้ ในขณะที่การเสริมกรดไขมันโอเมก้า 3 ขนาด 1 - 3 กรัมต่อวัน รับประทานต่อเนื่อง 8 - 16 สัปดาห์ ร่วมกับการใช้ยารักษาโรคจิตในผู้ป่วยโรคจิตเภทเรื้อรังยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเนื่องจากผลการศึกษาที่ผ่านมาขัดแย้งกัน
สรุป : การเสริมกรดไขมันโอเมก้า 3 มีแนวโน้มช่วยลดอัตราการเกิดอาการทางจิตได้ในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงมาก และช่วยลดความรุนแรงของอาการทางจิตของผู้ป่วยโรคจิตเภทครั้งแรกได้ แต่ประโยชน์ในผู้ป่วยโรคจิตเภทเรื้อรังยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติม