Abstract:
วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาพตัวแทนพระสงฆ์ผู้กระทำผิดที่สัมพันธ์กับกลวิธีทางภาษาในวาทกรรมข่าวออนไลน์ตามแนวทางวาทกรรมวิเคราะห์เชิงวิพากษ์ (Critical Discourse Analysis) โดยเก็บข้อมูลจาก 3 เว็บไซต์ข่าว ได้แก่ สนุกดอทคอม ไทยรัฐออนไลน์ และเว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 – 2563 จำนวน 495 ตัวบท
ผลการศึกษาพบว่ากลวิธีทางภาษาที่สื่อภาพตัวแทนพระสงฆ์ผู้กระทำผิดมี 7 กลวิธี ได้แก่ การใช้การอ้างถึง การใช้ชนิดกระบวนการ การเลือกใช้คำ การเล่าเรื่อง การใช้มูลบท การใช้สหบท และการใช้คำถามเชิงวาทศิลป์ และพบว่ากลวิธีทางภาษาที่โดดเด่นคือกลวิธีที่ขับเน้นภาพด้านลบของพระสงฆ์ผู้กระทำผิดอย่างละเอียดชัดเชน เช่น การใช้ถ้อยคำเชิงประเมินค่าและเน้นย้ำความหมายทางลบเพื่ออ้างถึงพระสงฆ์ผู้กระทำผิด การใช้ถ้อยคำที่สื่อน้ำเสียงตำหนิ ประณามพระสงฆ์ผู้กระทำผิดอย่างรุนแรง การใช้ถ้อยคำบรรยายภาพเหตุการณ์อย่างละเอียด เป็นต้น กลวิธีทางภาษาเหล่านี้สื่อภาพตัวแทนพระสงฆ์ผู้กระทำผิด 3 ภาพหลัก ได้แก่ 1) ภาพตัวแทนพระสงฆ์ผู้กระทำทำผิดเป็นบุคคลที่กระทำผิดอย่างร้ายแรงและมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับความเป็นพระสงฆ์อย่างยิ่ง กล่าวคือ เป็นบุคคลที่กระทำผิดกฎหมายและ/หรือพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง เป็นบุคคลที่ลุ่มหลงในกิเลส ตัณหา ราคะ มีความประมาท และไม่สามารถละจากทางโลกได้ และเป็นบุคคลที่หลอกลวงประชาชนและแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน 2) พระสงฆ์ผู้กระทำผิดเป็นบุคคลที่สร้างความเสื่อมเสียให้แก่สังคมและพระพุทธศาสนา กล่าวคือเป็นบุคคลที่สังคมไม่ยอมรับเลื่อมใสศรัทธา และเป็นบุคคลที่ทำลายศาสนา และ 3) พระสงฆ์ผู้กระทำผิดเป็นบุคคลที่สมควรถูกตำหนิ ประณามและขับไล่ให้พ้นจากพระพุทธศาสนาและวงการพระสงฆ์ให้สาสมแก่ความผิด
ด้านวิถีปฏิบัติทางวาทกรรม พบว่า การมุ่งเน้นนำเสนอภาพด้านลบและการกระทำผิดที่รุนแรงของพระสงฆ์ผู้กระทำผิดสัมพันธ์กับจุดมุ่งหมายของสื่อมวลนชน คือ เพื่อรายงานเหตุการณ์ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่านและสร้างรายให้แก่ผู้ผลิตตัวบท และเพื่อประณามการกระทำผิดของพระสงฆ์ผู้กระทำผิดและธำรงความสำคัญของพระพุทธศาสนาและสถาบันสงฆ์โดยรวม ข่าวเชิงลบของพระสงฆ์เป็นประเด็นที่สามารถสร้าง “มูลค่าข่าว” ประกอบกับการเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ทำให้ผู้รับสารสามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกและให้ความสนใจบริโภคข่าวเหล่านี้ ด้านวิถีปฏิบัติทางสังคมและวัฒนธรรม พบว่า ปัจจัยทางสังคมวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กฎหมาย กฎระเบียบคณะสงฆ์ แนวคิดเรื่องบทบาทหน้าที่ของพระสงฆ์ และเหตุการณ์ร่วมสมัยที่มีผลต่อการผลิตวาทกรรมข่าวที่พระสงฆ์เป็นผู้กระทำผิด
งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าวาทกรรมข่าวพระสงฆ์ผู้กระทำผิดดูเหมือนว่ามีส่วนช่วยธำรงความสำคัญของพระพุทธศาสนาและสถาบันสงฆ์โดยรวมให้ปราศจากมลทินของพระสงฆ์ผู้กระทำผิด อย่างไรก็ดี สื่อมวลชนก็ยังไม่ได้สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ท้ายที่สุด ปัญหาดังกล่าวก็ยังคงเกิดซ้ำอีก การวิจัยนี้ช่วยทำให้เห็น “อำนาจ”ของสื่อมวลชนในการคัดเลือก ตัดสิน ประเมินค่า และเน้นย้ำภาพด้านลบของพระสงฆ์ผู้กระทำผิดด้วยถ้อยคำที่รุนแรง เพื่อสร้างเป็น “จุดขาย” ของข่าวซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสื่อมวลชน ผลการวิจัยนี้น่าจะมีส่วนช่วยสร้างความรู้เท่าทันวาทกรรมและบทบาทของสื่อมวลชนในสังคมไทยปัจจุบัน