Abstract:
ศึกษาปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการนำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ มาใช้ในภาครัฐเพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาให้แก่หน่วยงานภาครัฐ ที่ประสงค์จะนำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้มีการใช้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจรอย่างแท้จริง โดยมีขอบเขตการวิจัยที่เน้นการนำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ มาใช้ในพิธีการศุลกากรเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกสินค้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเกิดความมั่นใจ ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์กับกรมศุลกากรมากขึ้น ผู้วิจัยศึกษาวิจัยจากข้อมูลเอกสารประกอบกับข้อมูลจากแบบสอบถามและการสัมภาษณ์ ผลการศึกษาปรากฏว่า ขณะนี้พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มีผลบังคับใช้แล้ว และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดให้การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ ต้องทำตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา การกระทำนั้นจึงจะมีผลโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ในปัจจุบันยังไม่มีการตราพระราชกฤษฎีกาตามความในมาตรา 35 จึงถือเป็นปัญหาสำคัญประการหนึ่งที่มีผลต่อความมั่นใจของผู้ประกอบการ ในการเข้าทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์กับภาครัฐ เพราะยังขาดความชัดเจนว่าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำลงไปนั้น จะมีผลโดยชอบด้วยกฎหมายเช่นเดียวกับการดำเนินการตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กฎหมายในเรื่องนั้นกำหนดหรือไม่ ดังนั้น จึงส่งผลให้การใช้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพและครบวงจร อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาพบยังมีปัญหาอื่นที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ ในการปฏิบัติพิธีการศุลกากรด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเป็นปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถบังคับใช้พระราชบัญญัติ ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ได้อย่างเต็มที่ ได้แก่ ปัญหาเรื่องความรับผิดตาม พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 ปัญหาเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ปัญหาความพร้อมของคู่กรณีที่เกี่ยวข้อง และปัญหาเรื่องการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่