Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาวิจัยถึงค่าเสียหายประเภทต่างๆ อันอาจเกิดขึ้นจากการละเมิดลิขสิทธิ์ในงานดนตรีกรรม สิ่งบันทึกเสียงและโสตทัศนวัสดุและศึกษาถึงแนวทางของศาลทั้งศาลไทยและศาลต่างประเทศในเรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณากำหนดค่าเสียหายประเภทต่างๆ อันอาจเกิดขึ้นจากการละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อให้ได้มาซึ่งแนวทางและวิธีการในการกำหนดค่าเสียหายประเภทต่างๆ เพื่อใช้เป็นมาตรฐาน สร้างความเป็นธรรมและเหมาะสมทั้งกับเจ้าของลิขสิทธิ์และผู้ละเมิด โดยข้อมูลที่ศึกษานั้นได้มาจากบทบัญญัติของกฎหมาย ตำราทางวิชาการ บทความ เครือข่ายอินเตอร์เน็ต และคำพิพากษาของศาลไทยและศาลต่างประเทศ ในคดีที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาวิจัยพบว่า แม้ว่าพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 จะได้วางหลักเกณฑ์การแก้ไขเยียวยาความเสียหายให้แก่เจ้าของลิขสิทธิ์มากขึ้น แต่ยังมีข้อให้ต้องพิจารณาเกี่ยวกับการกำหนด การใช้ดุลพินิจของศาลในการกำหนดค่าเสียหายแก่เจ้าของลิขสิทธิ์ หากว่าศาลไม่เข้าใจถึงระบบกลไกตลาด หรือหลักเศรษฐศาสตร์อย่างแท้จริงแล้ว การกำหนดค่าเสียหายแก่เจ้าของลิขสิทธิ์นั้นอาจไม่เหมาะสมและเป็นธรรมได้ ซึ่งประเด็นเดียวกันนี้ ในกฎหมายต่างประเทศมีบทบัญญัติที่ชัดเจนและสมบูรณ์กว่ากฎหมายไทย ดังนั้นประเทศไทยจึงควรศึกษาบทบัญญัติและคำพิพากษาเกี่ยวกับค่าเสียหายในคดีละเมิดลิขสิทธิ์ของต่างประเทศ เพื่อวิเคราะห์หาแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับค่าเสียหายในคดีละเมิดลิขสิทธิ์ของไทยต่อไป วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ได้เสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 โดยควรให้มีการกำหนดข้อสันนิษฐานของประเภทของค่าเสียหายในคดีละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีแนวทางที่ชัดเจนในการพิจารณากำหนดจำนวนค่าเสียหายในคดีละเมิดลิขสิทธิ์ รวมทั้งได้เสนอให้มีการนำแนวคิดเกี่ยวกับค่าเสียหายเชิงลงโทษมาใช้ในคดีด้วย นอกจากนี้ วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ได้เสนอให้มีการออกแนวทางการพิจารณากำหนดค่าเสียหายในคดีละเมิดลิขสิทธิ์เฉพาะกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์ในงานดนตรีกรรมงานสิ่งบันทึกเสียงและโสตทัศนวัสดุ โดยให้พิจารณาผลของการทำละเมิดลิขสิทธิ์ว่ามีผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของเจ้าของลิขสิทธิ์หรือไม่และอย่างไร