Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาประวัติ ขั้นตอน ระเบียบวิธีการแสดง และการเชิดหนังใหญ่ วัดสว่างอารมณ์ จังหวัดสิงห์บุรี รวบรวมข้อมูลจากเอกสารทางวิชาการ การสัมภาษณ์ผู้แสดง และผู้ที่ศึกษางานด้านหนังใหญ่ สังเกตการณ์การแสดงหนังใหญ่ 5 ครั้ง และการฝึกปฏิบัติการเชิดหนังใหญ่ด้วยตนเอง ตัวหนังใหญ่วัดสว่างอารมณ์สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ. 2418 ซึ่งเป็นปีที่สร้างวัดสว่างอารมณ์ ต่อมามีหัวหน้าคณะในสายตระกูลจัดการแสดง 3 ชั่วคน ตัวหนังของวัดสว่างอารมณ์มีอยู่ประมาณ 270 ตัว ขนาดสูงตั้งแต่ .5 - 2 เมตร แบ่งออกเป็น 4 ชุด คือ ศึกอินทรชิต ศึกวิรุณจำบัง ศึกบุตร-ลบ และศึกทศกัณฐ์ ครั้งที่ 5 ซึ่งชุดสุดท้ายเป็นชุดที่จัดแสดงอยู่ในปัจจุบันเนื่องจากเป็นชุดที่มีตัวหนังสภาพสมบูรณ์ที่สุด การแสดงหนังใหญ่แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ เบิกหน้าพระไหว้ครู เบิกโรงจับลิงหัวค่ำ และการแสดงจับเรื่องตอนศึกทศกัณฐ์ครั้งที่ 5 ซึ่งเป็นเรื่องของสงครามระหว่างพระรามกับทศกัณฐ์ต่อผู้กันตั้งแต่เช้าจนค่ำไม่มีฝ่ายใดแพ้หรือชนะ จึงเจรจาพักทัพเพื่อกลับมารบกันต่อในวันรุ่งขึ้น การเชิดหนังใหญ่แบ่งออกเป็น การเชิดหน้าจอ และการเชิดหลังจอ เทคนิคการเชิดหน้าจอ ผู้เชิดยืนหันหน้าเข้าหาผู้ชม ผู้เชิดยืนหันหลังเข้าหาผู้ชม และผู้เชิดยืนหันข้างเข้าหาผู้ชม เทคนิคการเชิดหลังจอ ผู้เชิดนั่งคุกเข่าเชิดและยืนเชิด เทคนิคการเชิดหลังจอนี้ใช้เฉพาะการเชิดหนังเฝ้าฝ่ายพระรามและฝ่ายทศกัณฐ์ และ สำหรับการเชิดเคลื่อนตัวหนังในฉากยกทัพตรวจพลออกจากด้านหลังจอ ผู้แสดงจับหนังสองมือเชิดเคลื่อนไหว ประกอบกับวงปี่พาทย์ การเชิดหนังมีกระบวนท่าเชิด 17 รูปแบบ และมีรูปแบบการใช้พื้นที่ในการเชิด 8 รูปแบบ ผู้แสดงสามารถแสดงการเชิดแต่ละครั้งให้ต่างกันในรูปแบบของการเชิดหนัง ผู้แสดงหนังใหญ่ วัดสว่างอารมณ์ เป็นผู้ชายมีจำนวน 20 คน อายุระหว่าง 16-83 ปี ค่าแสดงอยู่ ระหว่าง 7,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่าง ๆ ในการจัดการแสดงเฉลี่ยปีละ 2-3 ครั้ง ปัจจุบันไม่ได้ถ่ายทอดวิธีการเชิดหนังให้กับใครเลย จึงมีแนวโน้มที่อาจเสื่อมสูญหากไม่มีการอนุรักษ์และสืบทอดการแสดงหนังใหญ่นี้