DSpace Repository

การพัฒนาวัสดุจุดหลอมตัวต่ำสำหรับกำบังรังสีเอกซ์และรังสีแกมมา

Show simple item record

dc.contributor.author ธัชชัย สุมิตร
dc.contributor.author วีระชัย บัญชรเทวกุล
dc.contributor.author ศิริวัฒนา บัญชรเทวกุล
dc.contributor.author สุวิทย์ ปุณณชัยยะ
dc.contributor.author นเรศร์ จันทน์ขาว
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิศวกรรมศาสตร์
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิศวกรรมศาสตร์
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิศวกรรมศาสตร์
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิศวกรรมศาสตร์
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิศวกรรมศาสตร์
dc.date.accessioned 2008-10-30T10:10:05Z
dc.date.available 2008-10-30T10:10:05Z
dc.date.issued 2536
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/8391
dc.description โครงการวิจัย ; เลขที่ 35G-NC-2532 en
dc.description.abstract ผลการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาวัสดุจุดหลอมตัวต่ำสำหรับกำบังรังสีเอ็กซ์และรังสีแกมมาพบว่า โลหะผสมเทอนารีระบบมิสมัท-ตะกั่ว-ดีบุก บิสมัท-แคดเมียม-ตะกั่ว และบิสมัท-แคดเมียม-ดีบุก เหมาะกับการหล่อโลหะในช่วงอุณหภูมิ 120-175 องศาเซลเซียส ในขณะที่โลหะผสมควอเทอนารีระบบบิสมัท-ตะกั่ว-ดีบุก-แคดเมียม เหมาะกับการหล่อโลหะในช่วงอุณหภูมิ 95-120 องศาเซลเซียส โครงสร้างของโลหะผสมเทอนารีพบว่ามีเนื้อแน่น สามารถประเมินความหนาแน่นจากการคำนวณในขณะที่โลหะผสมควอเทอนารีจะมีเฟสของสารประกอบระหว่างโลหะซึ่งมีความหนาแน่นต่ำปรากฏ ทำให้ไม่สามารถประเมินความหนาแน่นโดยการคำนวณ ความแข็งแรงของโลหะผสมทั้งสองระบบมีค่าประมาณ 2-3 เท่าของโลหะตะกั่ว ทำให้ชิ้นงานหล่อมีความแข็งแรงและรักษารูปทรงได้ดีขึ้นกว่าเดิม แม้จะมีอุณหภูมิจุดหลอมตัวต่ำกว่าโลหะตะกั่วมาก ในการศึกษาคุณสมบัติการกำบังรังสีโดยพิจารณาจากสัมประสิทธิ์การแอทเทนนูเอทเชิงเส้น (หรือสัมประสิทธิ์การแอทเทนนูเอทเชิงมวล) ในช่วงพลังงานที่ใช้ทางการแพทย์ (60-150 keV) พบว่าที่ค่าความหนาแน่นคงที่เมื่อระดับพลังงานคงที่ ธาตุและส่วนผสมของธาตุที่เป็นองค์ประกอบจะเป็นตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อค่าสัมประสิทธิ์การแอทเทนนูเอทโดยตรง รวมทั้งมีข้อสรุปจากการศึกษาผลการเกิดออกซิเดชันของโลหะผสมในขณะที่กำลังหล่อโลหะ และข้อควรระวังในการหล่อโลหะด้วย
dc.description.abstractalternative Studies on development of low melting point materials for x-ray and gamma ray shielding for medical applications showed that the casting temperature range of 120-175 degree Celsius was suitable for Bi-Pb-Sn, Bi-Cd-Pb, and Bi-Cd-Sn ternary alloys while 90-120 degree Celsius range was suitable for Bi-Pb-Sn-Cd quaternary alloys. Ternary alloys had sound texture without any presence of low density phase of intermetallic compound as found in quaternary alloys, thus enabled their density estimations by calculation. Both system alloys had 2-3 times hardness values compared to that of lead metal. This indicated the improvement in strength to weight ratio while their casting temperatures were lower. Radiation shielding properties of both system alloys at 60-150 keV energy range were not far different from lead metal. When material or composition was fixed, the attenuation coefficients decreased while the radiation energy increased. In contrast when the radiation energy was fixed, existing elements and their compositions would play important role on the obtaining attenuation coefficients. Oxidation effect on composition change and precautions during casting of alloys were also discussed.
dc.description.sponsorship ทุนวิจัยงบประมาณแผ่นดิน en
dc.format.extent 9902605 bytes
dc.format.mimetype application/pdf
dc.language.iso th es
dc.publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en
dc.subject การกำบังรังสี en
dc.subject รังสีเอกซ์ en
dc.subject รังสีแกมมา en
dc.subject โลหะผสมเทอนารี en
dc.subject โลหะผสมควอเทอนารี en
dc.subject จุดหลอมตัว en
dc.subject ยูเทคติก en
dc.title การพัฒนาวัสดุจุดหลอมตัวต่ำสำหรับกำบังรังสีเอกซ์และรังสีแกมมา en
dc.type Technical Report es
dc.email.author Tatchai.S@Chula.ac.th
dc.email.author ไม่มีข้อมูล
dc.email.author fnesbc@eng.chula.ac.th, Siriwattana.B@Chula.ac.th
dc.email.author Suvit.P@Chula.ac.th
dc.email.author fnenck@eng.chula.ac.th


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record