Abstract:
การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการเดินแบบนอร์ดิกในน้ำต่อการทำงานของหลอดเลือดสมองและภาวะพุทธิปัญญาบกพร่องในผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2
กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อายุระหว่าง 60 ถึง 74 ปี จำนวน 33 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับการโปรแกรมการฝึก (CON) จำนวน 17 คน และ 2) กลุ่มฝึกด้วยการเดินแบบนอร์ดิกในน้ำ (NWW) จำนวน 16 คน กลุ่ม NWW ได้รับการฝึกแบบต่อเนื่องที่อุณหภูมิของน้ำระหว่าง 34 ถึง 36 องศาเซลเซียส ครั้งละ 40 นาทีที่ความหนัก 40-60 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการเต้นหัวใจสำรอง จำนวน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ โดยในสัปดาห์ที่ 1 ถึง 6 ทำการฝึกที่ความหนัก 40-50 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการเต้นของหัวใจสำรอง และสัปดาห์ที่ 7 ถึง 12 ทำการฝึกที่ความหนัก 50-60 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการเต้นของหัวใจสำรอง ส่วนกลุ่ม CON ให้ดำเนินกิจวัติประจำวันแบบปกติ ก่อนและหลัง 12 สัปดาห์ ทำการทดสอบตัวแปรด้านสรีรวิทยา หน้าที่การทำงานของหลอดเลือด หน้าที่การทำงานของหลอดเลือดสมอง สุขสมรรถนะ พุทธิปัญญา และสารชีวเคมีในเลือด ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบก่อนและหลังการฝึก และเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มด้วยการทดสอบความแปรปรวนสองทางแบบวัดซ้ำ 2x2 (กลุ่มxเวลา) และเปรียบเทียบความแตกต่างแบบรายคู่โดยใช้วิธีการทดสอบของแอลเอสดี
ภายหลังการฝึก 12 สัปดาห์ พบว่า กลุ่ม NWW มีค่าน้าหนักตัว ดัชนีมวลกาย มวลไขมัน เปอร์เซ็นต์ไขมันของร่างกาย อัตราการ
เต้นของหัวใจขณะพัก และความดันโลหิตขณะพักลดลง (all p<0.05) และมีค่าการทดสอบนั่งเก้าอี แล้วเอื อมแตะปลายเท้า เอื อมแตะหลัง ลุก
นั่ง งอแขน การเดินและกลับตัว 3 เมตร เดิน 6 นาที และยกขาซอยเท้าอยู่กับที่ 2 นาที พัฒนามากขึ น (all p<0.05) ในขณะที่กลุ่ม CON ไม่พบ
การเปลี่ยนแปลง กลุ่ม NWW มีระดับน้าตาลในเลือดหลังอดอาหาร น้าตาลสะสมในเลือดและภาวะดื อต่ออินซูลินลดลง (all p<0.05) กลุ่ม
NWW มีคลื่นความดันชีพจรระหว่างต้นแขนและข้อเท้าลดลง แต่มีการขยายตัวของหลอดเลือดหลังการปิดกั นการไหลเวียนของหลอดเลือดเบล
เคียลและความสามารถในการขยายของผนังหลอดเลือดเพิ่มขึ น และมีค่าสูงกว่ากลุ่มควบคุม (all p<0.05) กลุ่ม NWW มีค่าดัชนีความต้านทาน
การไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดสมองมิดเดิลเซเรบรอลอาร์เทอร์รี่ ในสภาวะคาร์บอนไดออกไซด์ปกติลดลง และดัชนีความสามารถในการ
ไหลของเลือดในหลอดเลือดสมองในสภาวะคาร์บอนไดออกไซด์สูงเพิ่มขึ น และมีคะแนนภาวะพุทธิปัญญาเพิ่มขึ น (all p<0.05) ในขณะที่กลุ่ม
CON ไม่มีพบการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี ยังพบว่ามีค่าการเปลี่ยนแปลงของคะแนนการประเมินพุทธิปัญญามีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการ
เปลี่ยนแปลงของระดับบีดีเอ็นเอฟ (r=0.424, P=0.014)
สรุปได้ว่า การฝึกเดินแบบนอร์ดิกในน้ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพทางการพัฒนาการควบคุมน้าตาล หน้าที่การท้างาน
ของหลอดเลือด การตอบสนองของหลอดเลือดสมอง สุขสมรรถนะ และพุทธิปัญญาในผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2