Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการฝึกพิลาทีสต่อสมรรถภาพปอดและความมั่นคงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวในสตรีวัยหมดประจำเดือน
กลุ่มตัวอย่างเป็นสตรีวัยหมดประจำเดือน อายุ 45-59 ปี จำนวน 24 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 12 คน ได้แก่ กลุ่มที่ 1 กลุ่มทดลอง ได้รับการฝึกพิลาทีส ครั้งละ 60 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ และกลุ่มที่ 2 กลุ่มควบคุม ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ไม่ได้รับการฝึกใด ๆ โดยก่อนและหลังการทดลองผู้วิจัยทำการทดสอบตัวแปรด้านสรีรวิทยา ตัวแปรด้านสมรรถภาพปอด ตัวแปรด้านความมั่นคงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว และตัวแปรด้านความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหายใจ จากนั้นนำค่าที่ได้มาวิเคราะห์ผลทางสถิติ โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังการทดลอง โดยการทดสอบค่าทีแบบรายคู่ (Paired t-test) และวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกลุ่ม โดยการทดสอบค่าทีแบบอิสระ (Independent t-test) ที่ระดับความมีนัยสำคัญที่ .05
ผลการวิจัยพบว่า หลังการทดลอง 6 สัปดาห์ กลุ่มฝึกพิลาทีสมีการเพิ่มขึ้นของค่าปริมาตรการหายใจปกติ (TV) ค่าปริมาตรสูงสุดของอากาศที่หายใจออกอย่างเร็วและแรงเต็มที่ (FVC) ค่าปริมาตรของอากาศที่ถูกขับออกในวินาทีแรกของการหายใจออกอย่างเร็วและแรงเต็มที่ (FEV1) ค่าปริมาตรของอากาศจากการหายใจเข้า-ออกเต็มที่ในเวลา 1 นาที (MVV) และค่าแรงดันการหายใจออกสูงสุด (MEP) แตกต่างกับก่อนการทดลองและกลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สำหรับตัวแปรด้านความมั่นคงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว พบว่ากลุ่มฝึกพิลาทีส ค่า Trunk flexion test (TFT) ค่า Side-bridge test ข้างซ้าย (SBL) ค่า Side-bridge test ข้างขวา (SBR) ค่า Trunk extension test (TET) ค่า Plank test (PT) ค่า Curl-up test (CUT) และ ค่าความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง เพิ่มขึ้นแตกต่างกับก่อนการทดลองและกลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
สรุปผลการวิจัย การฝึกพิลาทีสเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ ช่วยเพิ่มสมรรถภาพปอด ความมั่นคงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหายใจในสตรีวัยหมดประจำเดือนได้