Abstract:
เชื้อแบคทีเรียแกรมลบ Acinetobacter baumannii เป็นเชื้อฉวยโอกาส ที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในโรงพยาบาล และมีการดื้อต่อยาปฏิชีวนะหลายชนิด จากหลายกลไกการดื้อยา รวมถึงการใช้ efflux pump ขับยาออกนอกเซลล์ การศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยได้ทดสอบหาค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ (MIC) ต่อยา amikacin ในเชื้อ A. baumannii ทั้งหมด 8 ตัวอย่าง ที่ได้จากสิ่งส่งตรวจของผู้ป่วย และเชื้อสายพันธุ์มาตรฐาน ATCC 19606 พบว่าเชื้อ
A. baumannii 7 ตัวอย่างมีค่า MIC อยู่ในช่วง 0.25 – 4 µg/mL (ไวต่อยา) และเชื้ออีก 2 ตัวอย่างมีค่า MIC เท่ากับ 64 และมากกว่า 256 µg/mL (ดื้อต่อยา) เมื่อเหนี่ยวนำเชื้อด้วยยา amikacin โดยเพาะเลี้ยงเชื้อในสภาวะที่มียา amikacin ความเข้มข้นเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ทุก 48 ชั่วโมง ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน พบว่าเชื้อ A. baumannii หลังเหนี่ยวนำด้วยยา amikacin ทั้ง 8 ตัวอย่าง มีค่า MIC เพิ่มขึ้นอยู่ในช่วง 32 ถึงมากกว่า 256 µg/mL ผลการศึกษาการใช้สารยับยั้ง efflux pump ได้แก่ สาร carbonylcyanide m-chlorophenylhydrazone (CCCP) พบว่าเชื้อ
A. baumannii หลังเหนี่ยวนำด้วยยา amikacin ทั้ง 8 ตัวอย่าง มีค่า MIC ต่อยา amikacin เมื่อมีสาร CCCP ลดลงมากกว่าหรือเท่ากับ 4 เท่าของค่า MIC ต่อยา amikacin ที่ไม่มีสาร CCCP แสดงว่าเชื้อที่ทดสอบทุกตัวอย่างมีการแสดงออกของ efflux pump เมื่อศึกษาการแสดงออกของยีน efflux pump (adeB) ด้วยเทคนิค PCR และ Real-Time PCR พบยีน adeB ของเชื้อก่อนเหนี่ยวนำและหลังเหนี่ยวนำด้วย amikacin ทุกตัวอย่าง นอกจากนี้ยังพบว่าเชื้อก่อนเหนี่ยวนำด้วย amikacin ในกลุ่มที่ดื้อยาหลายขนานมีการแสดงออกของยีน adeB เพิ่มขึ้น ร้อยละ 37.5 (3 ใน 8 ตัวอย่าง) ส่วนเชื้อหลังเหนี่ยวนำด้วย amikacin มีการแสดงออกของยีน adeB เพิ่มขึ้นทุกตัวอย่างคิดเป็น ร้อยละ 100 จากการศึกษานี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการใช้ยาปฏิชีวนะเกินความจำเป็น อันอาจนำไปสู่การดื้อยาของเชื้อ A. baumannii ซึ่งมีกลไกในการขับยาออกได้