Abstract:
ศึกษาการใช้กำลังขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศในกรณีโคโซโว โดยพิจารณาถึงหลักการห้ามใช้กำลังและข้อยกเว้นตามกฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งพบว่า มาตรา 2 (4) ได้บัญญัติห้ามมิให้รัฐภาคีขององค์การสหประชาชาติ ใช้กำลังในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะกระทำโดยวิธีใด เว้นแต่การป้องกันตนตามมาตรา 51 และการดำเนินการร่วมกันเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่งประเทศตามหมวด 7 และแม้ว่ากฎบัตรสหประชาชาติจะยอมรับให้มีการจัดทำข้อตกลง หรือจัดตั้งองค์การส่วนภูมิภาคเพื่อแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบ ต่อการรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวก็จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุม ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วย จากการศึกษาพบว่า ปฏิบัติการทางอากาศขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลตติกเหนือ ในกรณีโคโซโวนั้นขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากเป็นการใช้กำลังและมิได้กระทำภายใต้ข้อยกเว้น ของกฎบัตรสหประชาชาติหรือภายใต้อำนาจของคณะมนตรีความมั่นคง แม้จะอ้างว่าเป็นการแทรกแซงเพื่อเหตุผลทางมนุษยธรรมก็ตาม แต่กรณีดังกล่าวก็มิได้มีบทบัญญัติรองรับไว้ชัดแจ้ง ว่าเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ จึงเกิดแนวคิดในเรื่องหน้าที่ในการคุ้มครองขึ้นมา ซึ่งกรณีโคโซโวนั้นปัญหาสำคัญประการหนึ่งก็คือ อุปสรรคในเรื่องการใช้สิทธิยับยั้งของคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาก็คือ การเสนอปัญหาต่อสมัชชาสหประชาชาติเพื่ออภิปรายหรือทำคำแนะนำ ในกรณีที่มีสถานการณ์ซึ่งน่าจะเป็นอันตรายต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ นอกจากนั้นการบัญญัติหลักเกณฑ์ในเรื่อง การแทรกแซงเพื่อเหตุผลทางมนุษยธรรมให้ชัดแจ้ง ก็จะเป็นการป้องกันมิให้รัฐต่างๆ ใช้ข้ออ้างในกรณีดังกล่าวในทางที่ผิดได้