Abstract:
นโยบายการจัดหาเครื่องจักรหนักมีผลต่อความสำเร็จของผู้รับเหมาก่อสร้างถนนระดับท้องถิ่น การกำหนดนโยบายที่เหมาะสมสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่เครื่องจักรหนักไม่พร้อมใช้งาน งานไม่เสร็จตามกำหนด และป้องกันปัญหาต้นทุนสูงที่กว่าแผนงานก่อสร้างลงได้ งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเลือกเกณฑ์ที่มีผลต่อการตัดสินใจต่อนโยบายการจัดหาเครื่องจักรหนัก เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยได้แก่ การวิเคราะห์เชิงลำดับชั้นและการตัดสินใจของกลุ่มผู้รับเหมาระดับท้องถิ่น ขั้นตอนการดำเนินงานเริ่มจาก (1) แบ่งกลุ่มผู้รับเหมาระดับท้องถิ่นเป็นสองกลุ่ม ตามขนาดทุนจดทะเบียนและตามศักยภาพในการซ่อมบำรุงเครื่องจักรหนัก (2) สำรวจปัจจัยต่าง ๆ เพื่อกำหนดเป็นเกณฑ์ที่สัมพันธ์กับนโยบายของการจัดหาเครื่องจักร (3) สร้างผังโครงสร้างเชิงลำดับชั้นประกอบด้วยเกณฑ์หลัก 6 เกณฑ์ และนโยบาย 3 ทางเลือก ในงานวิจัยนี้ได้ใช้เครื่องจักรหนักกรณีศึกษา ได้แก่ รถเกลี่ยดิน รถตัก รถบรรทุกน้ำ และรถโม่คอนกรีตที่มีอายุงานสูง (4) ทำการวิเคราะห์เชิงลำดับชั้นและทำการประเมินความเสี่ยงของโครงการควบคู่กัน ผลการวิจัยพบว่ากรณีรถเกลี่ยดิน รถตักและรถโม่คอนกรีต กลุ่มผู้รับเหมาขนาดกลางให้ความสำคัญมากต่อเกณฑ์หลักได้แก่ "ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโครงการ" (0.309, 0.297, 0.322) และเกณฑ์รองได้แก่ "ค่าใช้จ่ายจากการส่งงานล่าช้า" (0.405, 0.368, 0.371) ในขณะที่กลุ่มผู้รับเหมาขนาดเล็กให้ความสำคัญมากต่อเกณฑ์หลัก "ประสิทธิภาพของทีมซ่อมบำรุง" (0.419, 0.402, 0.376) และเกณฑ์รอง "ค่าใช้จ่ายในการจัดหา" (0.226, 0.203, 0.311) ส่วนกรณีรถบรรทุกน้ำกลุ่มผู้รับเหมาขนาดกลางให้ความสำคัญมากต่อเกณฑ์หลักได้แก่ "ประสิทธิภาพทีมซ่อมบำรุง" (0.313) และเกณฑ์รองได้แก่ "ค่าใช้จ่ายจากการส่งงานล่าช้า" (0.335) ในขณะที่กลุ่มผู้รับเหมาขนาดเล็กให้ความสำคัญมากต่อเกณฑ์หลัก "ประสิทธิภาพของทีมซ่อมบำรุง" (0.404) และเกณฑ์รอง "ค่าใช้จ่ายในการจัดหา" (0.273) ทั้งนี้ผู้รับเหมาขนาดกลางเลือกนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อเครื่องจักรใหม่เมื่อมีความเสี่ยงสูงต่อการเสียค่าปรับงานไม่เสร็จตามกำหนด ส่วนผู้รับเหมาขนาดเล็กเลือกนโยบายที่เน้นการซ่อมแซมเครื่องจักรที่มีอยู่เดิมเนื่องจากความกังวลกับค่าใช้จ่ายในการจัดหาเครื่องจักรสูง