Abstract:
มะเร็งปากมดลูก เป็นโรคที่คร่าชีวิตสตรีเป็นลำดับต้นสามในประเทศไทย มีสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อเอชพีวี โดยหนึ่งในยีนที่มีส่วนสำคัญคือยีน E7 ซึ่งสามารถจับกับบริเวณโพรโมเตอร์ของยีน CCNA1 ซึ่งเป็นยีนต้านมะเร็ง ร่วมกับเอนไซม์ DNMT1 ชักนำให้เกิดการเติมหมู่เมทิล ทำให้การแสดงออกของยีน CCNA1 ลดลง นำไปสู่การเกิดมะเร็งปากมดลูก การศึกษาก่อนหน้าพบว่าในยีน ALDH3B1 ASAH2B และ FOXC1 มีการแสดงออกที่ลดลงเนื่องจากการเติมหมู่เมทิลที่บริเวณโพรโมเตอร์ในเซลล์สายพันธุ์ SiHa และ HEK293 ที่ถูกกทรานสเฟ็กด้วย E7 ในการศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการเติมหมู่เมทิลของยีน ALDH3B1 ASAH2B และยีน FOXC1 ในหลายระยะของการเกิดมะเร็งปากมดลูก ตัวอย่างที่ใช้เป็นแปบสเมียร์และตัวอย่าง ASC-US บริเวณปากมดลูกที่ได้รับการวินิจฉัยแล้ว นำมาสกัดดีเอ็นเอ จากนั้นนำมาผ่านกระบวนการไบซัลไฟต์ทรีทเมนท์ และตรวจการเติมหมู่เมทิลด้วยเทคนิค MSP ผลการศึกษาพบว่ายีน ALDH3B1 มีจำนวนตัวอย่างที่มีการเติมหมู่เมทิลในเซลล์ปากมดลูกปกติมากกว่าเซลล์ที่ติดเชื้อเอชพีวี ในขณะที่ยีน ASAH2B และยีน FOXC1 พบการเติมหมู่เมทิลมากขึ้นตามความพัฒนาของเซลล์ที่ผิดปกติเมื่อเปรียบเทียบกับเซลล์ที่ไม่มีการติดเชื้อเอชพีวี และพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการติดเชื้อเอชพีวีและการเติมหมู่เมทิล อย่างไรก็ตาม จำนวนตัวอย่างที่มีการเติมหมู่เมทิลกลับลดลงในเซลล์มะเร็งปากทดลูกในทุกยีน จากผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่ามีเพียงยีน ASAH2B และยีน FOXC1 ที่อาจพอจะนำมาเป็นเครื่องหมายโมเลกุลที่จำเพาะกับมะเร็งปากมดลูก เพื่อใช้ในการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในระยะก่อนเกิดมะเร็ง อีกทั้งควรที่จะติดตามข้อมูลและนัดหมายกลุ่มประชากรเสี่ยงที่อยู่ในกลุ่มระยะก่อนเป็นมะเร็งต่อไป