Abstract:
สารนิพนธ์ฉบับนี้ผู้เขียนได้ศึกษากระบวนการนำนโยบายต่อต้านข่าวปลอม ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ไปปฏิบัติว่าเป็นอย่างไร รวมถึงศึกษาผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนว่ามีมากน้อยเพียงใด โดยผู้เขียนได้ทำการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการศึกษาข้อมูลจากเอกสาร และการสัมภาษณ์จากผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ภาคประชาสังคม และประชาชน โดยสารนิพนธ์ฉบับนี้มุ่งที่จะศึกษากระบวนการนำนโยบายต่อต้านข่าวปลอม ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ไปปฏิบัติว่าเป็นอย่างไร รวมถึงศึกษาผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนว่ามีมากน้อยเพียงใด โดยผู้เขียนได้ทำการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการศึกษาข้อมูลจากเอกสาร และการสัมภาษณ์จากผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ภาคประชาสังคม และประชาชน
จากการศึกษา พบว่า 1) รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่การกำหนดมาตรฐานในการดำเนินนโยบายยังมีความไม่ชัดเจน ให้ความสำคัญกับการสร้างเครื่องมือสำหรับการตรวจสอบข้อเท็จจริงมากกว่าการสร้างองค์ความรู้ให้กับประชาชน 2) งบประมาณที่ใช้ดำเนินการสำหรับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย มีเพียงพอสำหรับภารกิจในปัจจุบัน แต่ยังขาดงบประมาณสำหรับการสร้างองค์ความรู้และการสนับสนุนงานศึกษาวิจัย 3) การสื่อสารระหว่างหน่วยงานปฏิบัติสามารถทำได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ มีการสื่อสารและติดตามความคืบหน้าในการทำงาน รวมถึงมีการจัดเจ้าหน้าที่ให้การสนับสนุนอยู่ตลอดเวลา 4) บุคลากรที่ปฏิบัติงานในศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย มีความพร้อมในเรื่องของทักษะ และสมรรถนะในการทำงาน แต่มีปัญหาในศูนย์ประสานงานประจำหน่วยงานที่มีภาระงานที่มากเกินไปจากงานประจำที่มีอยู่เดิม 5) ความไม่ชัดเจนของตัวกฎหมายที่เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจในการตีความการกระทำผิดของประชาชนทำให้มีการดำเนินคดีกับประชาชนและส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนเกิดความหวาดกลัว และอาจจะนำไปสู่การเซนเซอร์ตัวเองไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นในที่สุด
สำหรับข้อเสนอแนะในการดำเนินนโยบายต่อผู้ศึกษามีข้อเสนอให้ 1) ผลักดันนโยบายเชิงรุกให้มากขึ้น โดยการสร้างองค์ความรู้ให้กับประชาชน 2) บรรจุองค์ความรู้เกี่ยวกับข่าวปลอมเข้าสู่แบบเรียนหรือกิจกรรมในชั้นเรียน 3) ลดบทบาทของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ในการดำเนินคดีกับประชาชน 4) จัดทำกฎหมายเฉพาะสำหรับความผิดเกี่ยวกับ “ข่าวปลอม” และ 5) จัดทำแผนระยะยาวเพื่อเปลี่ยนผ่านออกไปเป็นองค์กรอิสระ