Abstract:
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับการรับรู้การสนับสนุนจากองค์การและความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน และ 2) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน และชั่วโมงการทำงานต่อวัน การรับรู้การสนับสนุนจากองค์การกับความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรองครักษ์ จังหวัดนครนายก จำนวน 98 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบไปด้วยแบบสอบถามแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่หนึ่งคือแบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล ส่วนที่สองเป็นแบบวัดการรับรู้การสนับสนุนจากองค์การ และส่วนที่สามเป็นแบบวัดความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบไคสแควร์ และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการศึกษาพบว่า 1) ระดับของการรับรู้การสนับสนุนจากองค์การอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ส่วนระดับความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานอยู่ในระดับค่อนข้างสูง 2) อายุมีความสัมพันธ์กับความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ระดับการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน และชั่วโมงการทำงานต่อวัน มีความสัมพันธ์ในทางบวกกับความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 16.120, 12.724 และ 11.526 ตามลำดับ ส่วนการรับรู้การสนับสนุนจากองค์การมีความสัมพันธ์ในทางบวกกับความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ .349