Abstract:
สารนิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาบทบาทของสหรัฐฯ ในฐานะที่เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ จนนำไปสู่ข้อตกลงว่าด้วยหญิงบำเรอ เมื่อปี ค.ศ.2015 โดยต้องการศึกษาสาเหตุที่สหรัฐฯ เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภูมิภาคเอเชีย ห้วงปี ค.ศ.2009-2017 โดยเฉพาะการเป็นตัวกลางในการแก้ไขข้อพิพาทกรณีหญิงบำเรอ และสาเหตุที่สหรัฐฯ เลือกแก้ไขความขัดแย้งกรณีหญิงบำเรอ ทั้งนี้ ผู้วิจัยได้ใช้งานของ David A. Lake เรื่อง Hierarchy in International Relations มาเป็นกรอบในการวิเคราะห์ การจัดระเบียบความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ผลการศึกษาพบว่า การที่สหรัฐฯ เข้าไปมีบทบาทมากขึ้นในเอเชีย โดยเฉพาะการแสดงบทบาทนำในการยุติความขัดแย้งกรณีหญิงบำเรอ เนื่องจากการประกาศนโยบายการหมุนสู่เอเชีย และความพยายามของสหรัฐฯ ในการถ่วงดุลอำนาจของจีน ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ส่วนสาเหตุที่สหรัฐฯ เลือกแก้ไขความขัดแย้งกรณีหญิงบำเรอ ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ แบ่งออกเป็น 4 ปัจจัย ได้แก่ ความสามารถในการกดดันให้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ยอมสร้างข้อตกลงร่วมเพื่อยุติความขัดแย้งกรณีหญิงบำเรอได้, การรักษาความเป็นมหาอำนาจในเอเชีย ,การพัฒนาความร่วมมือทางทหารในรูปแบบไตรภาคีระหว่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เพื่อต้านทานการผงาดขึ้นมาของจีน และการมองว่าปัญหาหญิงบำเรอทหารญี่ปุ่นเป็นตัวขัดขวางการสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทหารของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้